รถยนต์ไฟฟ้าแบรนด์ไทย เตรียมเดินสายการผลิตครั้งใหญ่ หลังเมกะโปรเจคแล้วเสร็จ
Автор: NEOTECH_THAILAND
Загружено: 2025-11-22
Просмотров: 16760
และวันนี้ทาง NEOTECH_THAILAND จะพาเพื่อนๆมาอัพเดท รถยนต์ไฟฟ้าแบรนด์ไทย อย่าง NEX เตรียมเดินสายการผลิตครั้งใหญ่ หลังเมกะโปรเจคแล้วเสร็จ
#กรุงเทพและปริมณฑล #รถยนต์ไฟฟ้า2025 #รถเมล์ไฟฟ้า
ผู้อำนวยการองค์การขนส่งมวงชนแห่งประเทศไทย หรือ ขสมก. เปิดเผยว่า ขสมก.ได้การทำการรับฟังความคิดเห็นสาธารณะร่างเอกสารประมูลโครงการเช่ารถโดยสารปรับอากาศใช้พลังงานไฟฟ้า (EV) จำนวน1,520 คัน (TOR) ครั้งที่ 3 โดยได้เผยแพร่บนเว็บไซด์ของ ขสมก. ซึ่งจะนำข้อเสนอแนะทั้งหมดมาประมวลผล ประกอบการปรับปรุงร่าง TOR ให้เสร็จสิ้นภายในเดือนพฤศจิกายน 2568 เบื้องต้นคาดว่าจะสามารถประกาศเชิญชวนภาคเอกชนเข้าร่วมประมูล ได้ภายในเดือนธันวาคม 2568 นี้
ปัจจุบัน ตามแผนจัดหารถเมล์ EV จำนวน 1,520 คัน แบ่งรับมอบเป็น 3 เฟส จะเริ่มทยอยเข้ามาให้บริการในเดือนกันยายน 2569 จำนวน 500 คันก่อน ครบทั้งหมด ใน 180 วัน เมื่อครบทั้งหมด จะปลดรถเมล์ร้อนออกไปทั้งหมด ซึ่งนอกจากช่วยลดมลพิษแล้วยังประหยัดต้นทุนรวมกว่า 1,442 ล้านบาทต่อปี จากประมาณการณ์ลดค่าเชื้อเพลิงได้ 70% และลดค่าเหมาซ่อม 1,800 ล้านบาท หายไป 100%
@ NEX พร้อมรับงาน
ดร.เอกพล สกุลพลไพศาล ประธานเจ้าหน้าที่การเงิน บริษัท เน็กซ์ พอยท์ จำกัด (มหาชน) หรือ NEX เปิดเผยกับ “ทันหุ้น” ว่า บริษัทมีความพร้อมในการเข้าร่วมโครงการรถเมล์ไฟฟ้าขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ซึ่งปัจจุบันอยู่ในขั้นตอนการทำ ประชาพิจารณ์รอบที่ 3 ทั้งนี้บริษัทเองจะไม่ได้เข้าประมูลโดยตรง แต่มองว่าบริษัทในกลุ่ม บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ EA ซึ่งมีประสบการณ์เดินรถเมล์ไฟฟ้า อาจจะมีการเข้าร่วมประมูล ซึ่งบริษัทก็มีโอกาสในการได้รับงานผลิตแลประกอบได้ เนื่องจากมีประสบการณ์ในการผลิตและส่งมอบรถได้ในระยะเวลาอันรวดเร็ว
“รถที่ใช้ในโครงการนี้จะต้องผลิตและประกอบในประเทศ ดังนั้นโรงงานบริษัท แอ็บโซลูท แอสเซมบลี จำกัด (AAB) ของ NEX และ EA นับว่ามีความพร้อมในการผลิตในระดับต้นๆ ของประเทศ และเคยมีประสบการณ์ผลิตรถได้เป็นพันคันภายในปีเดียวมาแล้ว ในช่วงที่ ไทยสมายล์บัส (TSB) ได้ดำเนินการ”
ดร.เอกพล มองว่า NEX จะได้รับผลประโยชน์ทั้งทางตรงและทางอ้อม เนื่องจากไม่ว่าบริษัทใดจะชนะการประมูลโครงการนี้ ผู้ชนะก็ต้องมาซื้อรถจากโรงงานผลิตของบริษัท ซึ่งหากได้รับโครงการนี้ จะทำให้โรงงานสามารถกลับมาดำเนินการผลิตได้อย่างเต็มที่
“ปัจจุบันโรงงานผลิต (AAB) ซึ่งได้ลดกำลังการผลิตและจำนวนคนลงไป ได้เริ่มมีการสั่งผลิตรถใหม่ที่ไม่ได้อยู่ในสต็อก เช่น การผลิตรถมินิบัส 7.3 เมตร และ 7.6 เมตร และรถบัส Navigator 12 เมตร บ้าง โดยได้มีการส่งมอบรถ Navigator 12 เมตร ให้กับทาง สพบ. (กรมขนส่งของทหาร) ไปแล้ว แต่หากมีคำสั่งซื้อจำนวนมากเข้ามาบริษัทก็สามารถกลับมาเดินเครื่องในระดับที่คงที่และมีรายได้ที่ดีกว่าเดิม ซึ่งจะส่งผลให้ผลการดำเนินงานโดยรวมดีขึ้น”
ที่มา : https://thunhoon.com/nex-page1-18112025
Доступные форматы для скачивания:
Скачать видео mp4
-
Информация по загрузке: