"ธนาธร" ขึ้นเวทีปราศรัยช่วยผู้สมัครนายกเทศมนตรีนครเชียงราย ชวนชาวเชียงรายเปลี่ยน เพื่ออนาคตที่ดีกว่า

"ธนาธร" ขึ้นเวทีปราศรัยช่วยผู้สมัครนายกเทศมนตรีนครเชียงราย ชวนคนเชียงรายเปลี่ยน เพื่ออนาคตที่ดีกว่า

วันที่ 20 เม.ย. 68 นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ขึ้นเหนือมาปราศรัยหาเสียงช่วย ดร.ศราวุธ สุตะวงศ์ หรือ ผอ.แซน ผู้สมัครจากพรรคประชาชนที่ลงชิงเก้าอี้นายกเทศมนตรีนครเชียงราย หวังล้มแชมป์เก่า นายวันชัย จงสุทธานามณี อดีตนายกเทศมนตรีนครเชียงรายหลายสมัย โดยนายธนาธรมีกำหนดการลงพื้นที่ จ.เชียงราย ใน 2 จุด ได้แก่ ในเวลา 15.30-16.30 น. ไปพบผู้ประกอบการในพื้นที่ จ.เชียงราย และกลุ่มนักธุรกิจรุ่นใหม่ เครือข่ายนักธุรกิจรุ่นใหม่ภายใต้หอการค้าจังหวัด ซึ่งมีบทบาทในการผลักดันแนวคิดธุรกิจสมัยใหม่ เศรษฐกิจสร้างสรรค์ และการมีส่วนร่วมทางเศรษฐกิจของคนรุ่นใหม่ เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในประเด็น "สร้างเศรษฐกิจให้เชียงราย : ในโครงสร้างเศรษฐกิจยุคเปลี่ยนผ่าน" ณ ห้องประชุม มาโย รีสอร์ท เชียงราย (สันโค้งน้อย ซ.5)

จากนั้นในเวลา 16.30-17.30 น. นายธนาธรและคณะ ไปปราศรัยและพบปะประชาชน บริเวณลานโดม ถนนคนม่วน สันโค้งน้อย หน้าวัดเชตุพน โดยประเด็นหลักในการปราศรัยได้แก่ ทางเลือกใหม่ของการเมืองท้องถิ่น พลังของชุมชนในยุคประชาธิปไตยโดยฐานราก และการฟื้นเศรษฐกิจเชียงรายจากฐานล่าง ซึ่งบรรยากาศการปราศรัยเป็นไปด้วยความคึกคัก มีบรรดาแฟนคลับกองเชียร์ทั้งของตัวผู้สมัครและแฟนคลับของนายธนาธรมาให้กำลังใจอย่างอบอุ่น ซึ่งก็มีผู้ให้การสนับสนุนส่วนใหญ่เป็นคนรุ่นใหม่ถือป้ายหาเสียงในกิจกรรม และ ดร.ศราวุธ พร้อมผู้สมัครเป็นสมาชิกสภาเทศบาล (ส.ท.) นครเชียงราย นายชิตวัน ชินอนุวัฒน์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) เชียงราย เขต 1 พรรคประชาชน ฯลฯ ผลัดเปลี่ยนกันปราศรัยโดยมีเนื้อหาว่า หากได้รับการเลือกตั้งจะเปลี่ยนแปลงการพัฒนาเขตเทศบาลนครเชียงรายให้มีประสิทธิภาพกว่าเดิม

นายธนาธร กลาวว่า สภาพของเขตเทศบาลนครเชียงรายในปัจจุบันไม่มีความคึกคักเหมือนในอดีต แต่กลับอยู่ในภาวะซบเซา จึงต้องมีการเปลี่ยนแปลงใหม่ และสิ่งที่ควรเปลี่ยนแปลงก่อนเป็นอันดับแรกก็คือ "ผู้นำ" เพราะเป็นองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่มีงบประมาณปีละกว่า 1,200 ล้านบาท หรือสมัยละ 4 ปี รวมกันกว่า 4,800 ล้านบาท แต่หลังจากตนได้ลงพื้นที่ไปพบปะประชาชนและพ่อค้าแม่ค้ากลับพบปัญหาหลายอย่าง เช่น ในตลาดที่มีหนูตัวเกือบเท่าแมว ระบบระบายอากาศไม่ดี เป็นต้น ทั้งนี้จากการทำงานร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นต่างๆ ทำให้ทราบว่าการบริหารเขตเทศบาลนครถือว่าง่ายที่สุดเพราะมีเนื้อที่เพียง 60 ตารางกิโลเมตร แต่มีงบประมาณปีละกว่า 1,200 ล้านบาท แตกต่างจากที่ จ.ลำพูน ซึ่งคนของพรรคพึ่งได้รับเลือกตั้งเป็นนายก อบจ. ได้รับงบประมาณเพียงแค่ 600 ล้านบาท แต่ต้องดูแลทั้งจังหวัด กระนั้นตัวแปรในการเลือกตั้งครั้งนี้ก็คือผู้ไปใช้สิทธิเลือกตั้งที่ตามปกติการเลือกตั้งทั่วไป (ส.ส.) จะมีกว่า 73% แต่การเลือกตั้งท้องถิ่นคนกลับออกมาน้อย จึงขอโอกาสในการเลือกตั้งครั้งนี้ด้วย และหาก ดร.ศราวุธ บริหารไม่ดีในอีก 4 ข้างหน้าตนก็คงไม่กล้าไปเยือนเชียงรายอีกแล้ว

ด้าน ดร.ศราวุธ กล่าวว่า ตนมีนโยบายและแนวทางในการพัฒนาเขตเทศบาลนครเชียงรายหลากหลายเรื่อง เช่น การศึกษาซึ่งน่าตกใจว่าศึกษาธิการจังหวัดระบุว่ามีเด็กที่อยู่ในเมืองเชียงรายไม่ได้รับโอกาสทางการศึกษาสูงถึง 3,000 คน เกิดคดีความต่างๆ ปีละกว่า 700-800 คดี ไม่มีระบบขนส่งมวลชนที่ทำให้การเดินทางสะดวกสบาย ฯลฯ ดังนั้นด้วยงบประมาณปีละ 1,200 ล้านบาท หากตนได้รับการเลือกตั้งก็จะแก้ไขปัญหาและพัฒนาในทุกๆ เรื่อง โดยไม่มีเรื่องบ้านใหญ่ และมีการสืบทอดอำนาจให้ลูกหลานไปลงสมัครต่ออย่างแน่นอน

รายงานข่าวแจ้งว่า การเลือกตั้งนายกเทศมนตรีนครเชียงรายมีผู้ลงสมัครรับเลือกตั้งจำนวน 2 คน คือ ดร.ศราวุธ และนายวันชัย จงสุทธานามณี อดีตนายกเทศมนตรีนครเชียงรายหลายสมัยและรั้งตำแหน่งมาตั้งแต่ยังเป็นเทศบาลเมืองเชียงราย ทำให้การเลือกตั้งในครั้งนี้มีความสูสีมากกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา เพราะพรรคประชาชนทุ่มกำลังในการส่งผู้สมัครลงเลือกตั้ง ทั้งนายกเทศมนตรี และ ส.ท.นครเชียงราย