คาถาพระฉิมพลี (คุณแม่บุญเรือน) เรียกโชคลาภ เรียกทรัพย์ 108 จบ

#คาถาพระสีวลี #คุณแม่บุญเรือน #โชคลาภ #เรียกเงิน
‪@เรื่องธรรมนํามาเล่า‬
คาถาพระฉิมพลี หรือ คาถาพระสีวลี
คุณแม่บุญเรือนได้จากสมาธิจิตเมื่อวันศุกร์ที่ ๖ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๐๐
จากตำราที่บันทึกไว้ได้ระบุว่า เป็นคาถาที่ท้าวสักกเทวราชหรือพระอินทร์นำมาถวายแด่คุณแม่บุญเรือน โดยเนื้อหาบทสวดได้กล่าวสรรเสิญพระฉิมพลี ซึ่งเป็นอีกพระนามของพระสิวลี ผู้เป็นเลิศด้านโชคลาภมากๆ ใครที่ได้สวดเป็นประจำเช้าค่ำ จะมีผลทางลาภช่วยเสริมดวงชะตาเสริมโชคลาภ เรียกทรัพย์เข้ามาสู่ชีวิต ส่งผลให้ชีวิตเจริญรุ่งเรืองไม่อับจนไม่ตกต่ำ มีโอกาสพลิกชะตาดวงชีวิตได้อย่างน่าอัศจรรย์ใจ

ถ้าหากได้สวดมนต์บทนี้เช้าค่ำ เป็นประจำ รวมถึงปฎิบัติเป็นกรรมฐานทำให้เข้าถึงฌานแล้ว จะร่ำรวยเป็นเศรษฐี มหาเศรษฐี เงินทองจะหลั่งไหลมาเอง สวดให้ได้วันละ108 จบ เช้า-เย็นหรือตามกำลังวัน และจงดำรงตนให้มั่นคงอยู่ในศีลเป็นปกติ หมั่นเจริญภาวนา สมาธิ จะร่ำรวยเป็นเศรษฐีใหญ่ จะหลุดพ้นจากกองหนี้ กองทุกข์ รอดจากความทุกเค็ญนี้ปลดเปลื้องความยากแค้นทั้งหลายมีแต่ลาภเข้ามาสู่ชีวิต
📌เคล็ดลับ ขณะสวดอย่าคิดว่าอยากจะได้อะไร อยากจะรวย แบบนี้ใช่ไม่ได้ หากมีความคิดเช่นนี้ ก็จดจ่อกับคำภาวนาใหม่ สวดจนเป็นสมาธิ หลังจากออกจากสมาธิ ค่อยอธิฐานจิตดังนี้
ก่อนจะอธิฐานนำเงินมา 1บาทขึ้นไป แล้วอธิฐานว่า
ข้าพเจ้า ชื่อ....นามสกุล....อาศัยอยู่บ้านเลขที่...ด้วยปัจจัยที่ข้าพเจ้าเจริญภาวนาพระคาถาพระสิวลี เพื่อถวายเป็นพุทธะบุชา ธรรมบูชา สังฆะบูชา คุณบิดามารดา คุณครูพระอุปัชฌาย์ อาจารย์ เทวา พรหม16ชั้นฟ้า 15 ชั้นดิน เปรต อสุรกาย สัตว์เดรัจฉาน ท่านที่มีความสุขก็ดี มีความทุกข์อยู่ก็ดี เป็นเคยญาติก็ดี มิใช่ญาติก็ดี
หากรับรู้ด้วยญาณวิถีใดก็ตามแต่ จงโมทนาส่วนบุญส่วนกุศลนี้ และขอบุญนี้จงเป็นปัจจัยให้ข้าพเจ้าและครอบครัว มีอายุ วรรณะ สุขะ พละ ขอคำว่าไม่มี ไม่ได้ ไม่รู้ ไม่สำเร็จ จงอย่าปรากฎแก่ข้าพเจ้านับตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ขอให้เป็นผู้เห็นถูก รู้ถูก นำผู้อื่นถูก มีความรู้ในข้ออรรถข้อธรรมอย่างแตกฉาน และตั้งอยู่ในสัมมาทิฐิแต่ส่วนเดียว จากนั้นนำเงินใส่บาตร หรือ กระปุกก็ได้ จากนั้น ครบเดือนนำไปทำบุญ ทำสังฆทาน เป็นต้น

#คาถาพระฉิมพลี ยิ่งสวดมากเท่าไหร่ ก็จะยิ่งเกิดอนุภาพมาก ยิ่งเราภาวนาบริกรรมมากขึ้นเท่าใด ก็จะยิ่งเกิดอนุภาพความศักดิ์สิทธิ์ มากขึ้นเท่านั้น สวดให้เป็นสมาธิจิต ให้สงบเกิดขึ้นในจิต

#การที่เราควรภาวนามาก ๆ ก็เพราะว่าระยะเวลาสวดที่ยาวนาน จะทำให้สมาธิของเราตั้งมั่นมากขึ้น เนื่องจากเรื่องของคาถาขึ้นอยู่กับสมาธินี้เป็นสำคัญ เกือบร้อยเปอร์เซ็นต์ ยิ่งสมาธิสูงเท่าไร สงบมากขึ้นเท่าใด คาถานั้นจะยิ่งให้ผลมากขึ้น เท่านั้น อนุภาพของคาถา จะบังเกิดอนุภาพ ให้ประจักษ์ จากความสงบมั่น ประกอบกับมีความเลื่อมใสศรัทธามั่น นี่เอง.. ถ้าทำแบบนี้แล้ว ทำแล้วไม่ได้ผลไม่มี

📌ทำแล้วไม่ได้ผลไม่มี ภาวนาแล้วไม่เกิดผลเป็นไม่มี
สวดยิ่งมาก ก็เกิดผลมากเป็นลำดับ เกิดอนุภาพกับตนขึ้นเป็นลำดับ ยิ่งสวดมากจนเป็นสมาธิ ต้องเกิดผล เพราะอานุภาพมันเกิดจากสมาธิ เมื่อใด้สวดบ่อยๆใช้เวลาในการสวดมากๆ ก็เกิดสมาธิใด้ ผลจะไปบังเกิดเอาตรง เกิดสมาธิจิต นั่นแหละ

ถ้าสวดน้อย มันไม่เกิดอนุภาพให้ประจักษ์ แต่เกิดอนุภาพใด้ แต่ให้ประจักษ์ผล ต้องสวดเอาให้เกิดสมาธิขึ้นในจิต
( แม้สงบเพียง แว๊ปเดียว เป็นสมาธิ อนุภาพของพระคาถาบันดาลผล ใด้ทันที )