15 อันดับสถานที่แปลกประหลาดที่สุดในโลก
Автор: รู้ได้ไง
Загружено: 2021-06-09
Просмотров: 28
บนโลกใบนี้ มีสถานที่ มีเรื่องราวและมีสิ่งแปลกใหม่มากมายเกิดขึ้นตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันและมันก็กระจายกันอยู่ทั่วทุกมุมโลกดังนั้น วันนี้เราได้รวบรวม 15 อันดับสถานที่แปลกประหลาดที่สุดในโลกมาฝากทุกคนกัน แต่ก่อนที่เราจะเริ่มกัน อย่าลืมกด subscribe ช่องรู้ได้ไง ด้วยนะครับ เพื่อที่ทุกคนจะได้ไม่พลาดคอนเทนต์ดีๆจากช่องของเรา
เรามาเริ่มกันที่อันดับที่ 15 กันเลย กับ Painted Hills แห่งรัฐโอเรกอน หุบเขาแห่งนี้ได้ถูกเรียกว่าหุบเขาทาสีเนื่องจากสีสันอันเป็นเอกลักษณ์ ที่ปกคลุมอยู่บนเนินเขาต่างๆมาเป็นเวลานานกว่า 35 ปี โดยสีสันที่แต่งแต้มอยู่นั้น เกิดจากชั้นของเถ้าของภูเขาไฟที่ปะทุขึ้นในอดีต และได้ไหลตามแม่น้ำมา จนเมื่อเวลาผ่านไปก็ถูกอัดและแข็งตัวจนกลายเป็นชั้นสีต่างๆดังที่เห็น ชั้นดินสีดำคือแร่ลิกไนต์ ชั้นสีเทาคือหินทรายและหินดินดาน ชั้นสีแดงและสีส้มคือดินลูกรังที่เกิดการทับถมของดินบนพื้นที่ราบเมื่ออากาศอบอุ่นและชื้น ซึ่งพื้นที่ส่วนนี้ถือเป็นส่วนหนึ่งของอนุสรณ์สถานแห่งชาติ John Day Fossil Beds เรียกได้ว่าเป็น 1 ในสถานที่สำคัญและยังเป็นสถานที่ที่ควรค่าแก่ช่างภาพอีกด้วย โดยเฉพาะช่วงเวลาพระอาทิตย์ขึ้นและพระอาทิตย์ตกที่สีสันจะสวยงามและสมบูรณ์ที่สุด
อันดับที่ 14 Blood Falls หรือน้ำตกโลหิต 1 ในสถานที่แปลกประหลาดที่เปรียบเสมือนมีเลือดสีแดงฉานไหลรินออกมาก้อนน้ำแข็งขนาดใหญ่ชื่อธารน้ำแข็งเทย์เลอร์ที่หุบเขาแห้งแล้ง McMurdo แห่งแอนตาร์กติกา ถูกค้นพบครั้งแรกเมื่อปี 2454 โดยนักธรณีวิทยาชาวออสเตรเลียชื่อกริฟฟิธ เทย์เลอร์ ซึ่งเขาได้เชื่อว่ามันเกิดจากสาหร่ายสีแดง แต่แล้วทฤษฎีดังกล่าวก็ถูกโต้แย้งเป็นอย่างมากและกลายเป็นสิ่งที่สร้างความท้าทายให้แก่นักวิทยาศาสตร์อีกหลายราย ซึ่งภายหลังก็ได้ข้อพิสูจน์ที่ว่าเกิดจากเหล็กออกซิไดซ์รวมถึงเศษซากอื่นๆที่หลงเหลือจากทะเลสาบน้ำเค็มเมื่อ 5 ล้านปีก่อนและแม้ว่าอุณหภูมิจะติดลบแต่ด้วยความเค็มจัดจึงทำให้ทะเลสาบไม่จับตัวเป็นน้ำแข็ง นอกจากนี้ออกซิไดซ์ที่ไหลขึ้นมาสัมผัสกับออกซิเจนในอากาศเมื่อทำปฏิกริยากันจึงเป็นสนิมและเกิดเป็นสีแดงขึ้นมานั่นเอง แต่ถึงยังไงก็ตามน้ำตกสีเลือดแห่งนี้ก็ยังแฝงไปด้วยความลึกลับมากมายที่เรายังไม่สามารถเข้าไปถึงได้
อันดับที่ 13 Jellyfish Lake ทะเลสาบแมงกะพรุนบนเกาะ
อิลมาร์ก(Mecherchar) บริเวณหมู่เกาะร็อกของประเทศปาเลา ซึ่งถือเป็นดินแดนที่ไม่มีการตั้งถิ่นฐานของคนเลย แต่กลับเป็นสวงสวรรค์ของเหล่าแมงกะพรุนขนาดน้อยใหญ่ นับล้านตัวที่ได้สูญสิ้นวิญญาณของนักล่าโดยสิ้นเชิงมาเป็นเวลานานนับพันปี และด้วยเหตุผลที่ว่าแมงกะพรุนที่นี่ไม่ต้องออกล่าเหยื่อเหมือนแมงกะพรุนทั่วไป เพราะได้รับสารอาหารโดยตรงจากสาหร่ายซิมไลโอนิคที่อาศัยอยู่ในเนื้อเยื่อ จึงทำให้แมงกะพรุนในทะเลสาบแห่งนี้ไม่มีพิษแม้แต่น้อย นักท่องเที่ยวจึงสามารถลงเล่นน้ำไปพร้อมกับเหล่าแมงกะพรุนได้โดยไม่ต้องกังวลว่าจะได้รับอันตรายใดๆเลย ที่นี่จึงกลายเป็นหนึ่งในจุดดำน้ำยอดเยี่ยมที่สุดแห่งหนึ่งในโลกเลย
อันดับที่ 12 Cano Cristales แม่น้ำ 5 สีแห่งโคลอมเบียที่ได้ชื่อว่าเป็นแม่น้ำที่สวยที่สุดในโลก แม่น้ำแห่งนี้อยู่ในภูเขา Sierra de la Macarena มีระยะทางยาวประมาณ 100 กิโลเมตร ซึ่งโดยปกติแล้วใต้พื้นแม่น้ำแห่งนี้มักประกอบด้วยหินที่ถูกปกคลุมด้วยพืชจำพวกมอสส์และสาหร่ายสีเขียว แต่ถึงอย่างไรก็ตามแม่น้ำแห่งนี้ก็มีการเปลี่ยนแปลงที่สุดแสนจะมหัศจรรย์ในช่วงเวลาสั้นๆของทุกปี นั่นก็คือช่วงเวลาระหว่างฤดูฝนและฤดูร้อนที่ระดับน้ำจะลดลงเพียงพอให้ดวงอาทิตย์ทำให้มอสและสาหร่ายในน้ำ อุ่นขึ้นจนเติบโตและบานสะพรั่งออกมาพร้อมเพียงกันอย่างสวยงาม ซึ่งสายพันธุ์พืชที่ขึ้นนี้ก็ไม่เหมือนกับที่ไหนๆมีชื่อเรียกว่า Macarenia clavigera ที่จะเปลี่ยนเป็นสีแดงจากกระบวนการนี้ นอกจากนี้ยังมีสีสันอื่นๆจากทรายสีเหลือง มอสสีเขียว และน้ำทะเลสีฟ้าที่ผสมผสานกันจนเกิดมาเป็นแม่น้ำ 5 สีแห่งนี้
อันดับที่ 11 The Silfra รอยแยกใต้น้ำซิลฟราที่ขึ้นชื่อว่าเป็นสถานที่ลึกลับที่นักดำน้ำอยากไปเยือนมากที่สุด รอยแยกนี้เกิดขึ้นจากการเคลื่อนตัวของแผ่นเปลือกโลกระหว่างอเมริกาเหนือและยูเรเซียและยังเป็นส่วนหนึ่งของรอยแยกแอตแลนติก ซึ่งเป็นเส้นแบ่งระหว่างทวีปยุโรปและอเมริกา ซึ่งรอยแยกนี้อยู่ในเขตทะเลสาบ Pingvallavatn ทะเลสาบธรรมชาติที่ใหญ่ที่สุดในไอซ์แลนด์ โดยทะเลสาบนี้อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติธิงเวลลีร์หรืออุทยานชาติซิงเควลลิร์ รอยแยกซิลฟราประกอบด้วย 3 ส่วนคือ เดอะ ซิลฟรา ฮอลล์, เดอะ ซิลฟรา แคทเธอดรัลและเดอะ ซิลฟรา ลากูน ซึ่งจุดเด่นของรอยแยกนี้ก็คือความใสและความเย็นของน้ำที่ถึงแม้จะดำลึกแค่ไหนก็ยังสามารถมองเห็นสิ่งต่างๆใต้น้ำได้ นี่จึงทำให้รอยแยกซิลฟราแห่งนี้กลายเป็นจุดดำน้ำยอดนิยม
อันดับที่ 10 Christ of The Abyss เป็นความงดงามใต้ทะเลที่มีพร้อมกับรูปปั้นพระเยซู ซึ่งเป็นรูปปั้นทองสัมฤทธ์ที่อยู่ในท่ายืนตรงและเงยหน้าเอื้อมมือไปบนฟ้าที่ตั้งตระหง่านอยู่ใต้ทะเลโดยฝีมือของ Guido Galletti โดยรูปปั้นใต้น้ำนั้นมีทั้งหมด 3 องค์ซึ่งถูกตั้งไว้ต่างสถานที่กันแต่ทั้ง 3 องค์ถูกหล่อขึ้นจากแม่พิมพ์เดียวกันในอิตาลี รูปปั้นพระเยซูองค์แรกถูกหย่อนลงน้ำครั้งแรกในปี 1954 ที่ทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ประเทศอิตาลี แต่เนื่องจากปะการังที่เกาะตามรูปปั้นจนหนาจึงมีการนำมาเพื่อทำความสะอาดและย้ายสถานที่ใหม่ ปัจจุบันถูกตั้งไว้ที่ใต้ทะเลชายฝั่งของรัฐฟลอริดา สหรัฐอเมริกาและได้กลายเป็นจุดดำน้ำยอดนิยมที่นักดำน้ำมักทำกิจกรรมและแสดงความศรัทธาถึงพระผู้เป็นเจ้าที่นี่

Доступные форматы для скачивания:
Скачать видео mp4
-
Информация по загрузке: