3I/ATLAS ดาวหางหรือยานต่างดาว?

สนใจสั่งซื้อผลิตภัณฑ์ของ Klarity : https://klarity.asia/curiosity-29
#SERASpace #RaceToSpaceTH


ติดตามเราที่ facebook :   / curiositychannelth  
กลุ่ม facebook :   / kpaj6rtevktxarwd  

Blockdit : https://www.blockdit.com/curiositycha...
Tiktok :   / curiositychannelth  
ติดต่องาน : [email protected]

อุดหนุนยิมของแอดได้ที่ Friendly Gym ฟิตเนส บางพลี
  / friendlygymsmt9  

----------------------------------------
ถ้าเราตามข่าวการสำรวจอวกาศในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา...
เราจะพบว่า มนุษย์เริ่มเข้าใกล้ “ความเข้าใจจักรวาล” มากขึ้นทุกที — เราส่งยานไปเก็บตัวอย่างดาวเคราะห์น้อย, วิเคราะห์อุกกาบาต, ไล่ตามดาวหางในห้วงอวกาศ เพื่อไขรหัสต้นกำเนิดของระบบสุริยะ

และทั้งหมดนั้นก็เพิ่งถูกท้าทาย…
เมื่อในปี 2025 ระบบกล้องโทรทรรศน์ ATLAS (Asteroid Terrestrial-impact Last Alert System) ได้ตรวจพบวัตถุประหลาดที่กำลังพุ่งผ่านระบบสุริยะของเรา ด้วยความเร็วสูงเกินแรงโน้มถ่วงของดวงอาทิตย์จะเหนี่ยวรั้งได้
มันคือ 3I/ATLAS — วัตถุระหว่างดวงดาว (Interstellar Object) ลำดับที่ 3 ที่มนุษย์ค้นพบ ต่อจาก ʻOumuamua (2017) และ 2I/Borisov (2019)

แต่สิ่งที่ทำให้ 3I/ATLAS กลายเป็นปริศนาระดับโลก…
คือความผิดปกติที่ไม่สามารถอธิบายได้ด้วยฟิสิกส์แบบที่เรารู้จัก

หางของมันพุ่ง “เข้าหาดวงอาทิตย์” แทนที่จะชี้ออกไป

ความสว่างของมันเปลี่ยนขึ้นลงอย่างฉับพลัน เหมือน “แสงไฟที่เปิดและดับ”

และที่ทำให้นักดาราศาสตร์ต้องขมวดคิ้วมากที่สุด… คือการตรวจพบนิกเกิล (Ni) ปริมาณมาก แต่กลับไม่พบเหล็ก (Fe) เลย — ซึ่งเป็นสิ่งที่ “ไม่เคยเกิดขึ้น” กับดาวหางในระบบสุริยะ

นักฟิสิกส์ดาราศาสตร์จาก Harvard อย่าง Avi Loeb ถึงกับตั้งสมมติฐานว่า “นี่อาจไม่ใช่ดาวหางธรรมดา แต่มันคือเทคโนโลยีจากอารยธรรมต่างดาวที่กำลังลาดตระเวนสำรวจระบบสุริยะของเรา”

แต่ในขณะที่โลกกำลังตื่นเต้นกับแนวคิด “ยานจากต่างดาว”
นักวิทยาศาสตร์อีกกลุ่มกลับมองว่า ปริศนาเหล่านี้อาจอธิบายได้ด้วย “เคมีของจักรวาล” — ปฏิกิริยาระหว่างคาร์บอนมอนอกไซด์ น้ำ และโลหะภายในดาวหางที่เก่าแก่ที่สุดในกาแล็กซี ซึ่งอาจก่อตัวขึ้นนับพันล้านปีก่อนดวงอาทิตย์จะถือกำเนิด

3I/ATLAS อาจไม่ใช่ยานจากอารยธรรมอื่น
แต่มันอาจเป็น “ฟอสซิลแห่งเอกภพ” — เศษเสี้ยวของเวลาที่หลุดมาจากยุคแรกเริ่มของกาแล็กซี
และการศึกษามัน อาจทำให้เรามองเห็น “จุดเริ่มต้นของเรา” ในระบบสุริยะนี้ได้ชัดเจนกว่าที่เคย