เปิดใจ “พระมหาสมปอง” หลังถูกมองว่าไม่เหมาะสม

ไปตามก็ต่อหน่อยครับสำหรับกรณี กรณีที่พระมหาสมปอง ตาลปุตฺโต วัดสร้อยทอง แสดงความคิดเห็นการทำงานของรัฐบาลช่วงสถานการณ์โควิด-19 ผ่านสื่อช่องทางต่างๆ อีกทั้งมีการทำการประชาสัมพันธ์โฆษณาขายสินค้า (ปุ๋ยน้ำ) ออกสื่อสังคมออนไลน์

จนทางรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เสนอเรื่องนี้ต่อที่ประชุมมหาเถรสมาคมเพื่อพิจารณาความเห็นต่อการแสดงออกที่ไม่เหมาะสม

วันนี้เราได้ไปคุยกับ พระมหาสมปอง ถึงเรื่องที่เกิดขึ้น พระมหาสมปองบอกว่า หากกรณีที่เกิดขึ้นดูไม่เหมาะสมก็น้อมรับผิด ในสิ่งที่ได้พูดไป โดยปกติแล้วก็จะพูดจะเทศน์ สถานการณ์ปัจจุบันหรือเหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นในบ้านเมืองสอดแทรกไปกับการสอนธรรมะมาโดยตลอดก็ไม่ได้มีเจตนาร้ายหรือไปยุ่งเกี่ยวกับการเมืองแต่อย่างใด

ส่วนเรื่องที่บอกว่ามีการรีวิวสินค้า พระมหาสมปองบอกว่า ก็ไม่ได้มีเจตนาจะไปแสวงหาผลประโยชน์แต่อย่างใดแต่ก็เป็นการช่วยเหลือญาติโยมที่ทำมาหากินในช่วงที่โควิดระบาด ที่ผ่านมาก็มีญาติโยมขอให้พูดขอให้ช่วยเรื่องของการค้าขาย แต่ความที่เป็นพระนักเทศน์มีคนรู้จักเยอะ หากช่วยเหลือญาติโยมให้สามารถทำมาหากินได้ก็อยากจะช่วยโดยไม่ได้หวังผลตอบแทนอะไรที่ผ่านมาก็พูดในลักษณะเชียร์ ไม่ใช่การรีวิว จากที่เขาขายได้เล็กน้อยเขาก็ขายได้เยอะขึ้นก็มองว่าเป็นสิ่งที่ดี

ขณะที่เรื่องที่ได้รับเป็นที่ปรึกษาของสโมสรฟุตบอล หลายคนก็จะทราบอยู่แล้วว่าให้ช่วยส่งเสริมด้านกีฬามาโดยตลอด หากช่วยให้เยาวชนห่างไกลจากยาเสพติดหรือทำให้เป็นนักกีฬาอาชีพได้ก็มองว่าเป็นสิ่งที่ดีที่จะช่วยให้เยาวชนได้มีอนาคตเป็นนักกีฬาอาชีพที่สามารถสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศได้

หากถามว่ากังวลไหมหลังจากนี้ก็กังวล เพราะบางครั้งพูดไปหรือเทศนาสอนธรรมะอาจจะถูกมองว่าไม่เหมาะสม โดยส่วนตัวแล้วก็เป็นการเทศนาธรรมถึงเรื่องสังคมไม่ใช่เรื่องการเมือง อย่างไรก็ตามหาทาง คณะปกครองสงฆ์มีมติเห็นเป็นอย่างไรก็พร้อมยอมรับ


สำหรับกรณีที่เกิดขึ้น นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ก็ได้ออกมาพูดถึงกรณีที่พระมหาสมปอง ตาลปุตฺโต วัดสร้อยทอง แสดงความคิดเห็นการทำงานของรัฐบาลช่วงสถานการณ์โควิด-19 ผ่านสื่อช่องทางต่างๆ อีกทั้งมีการทำการประชาสัมพันธ์โฆษณาขายสินค้า (ปุ๋ยน้ำ) ออกสื่อสังคมออนไลน์ ว่า ตนได้สั่งการให้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เสนอเรื่องนี้ต่อที่ประชุมมหาเถรสมาคมเพื่อพิจารณาความเห็นต่อการแสดงออกที่ไม่เหมาะสมดังกล่าว ซึ่งถือว่าไม่เป็นกิจของสงฆ์

ล่าสุด ที่ประชุมมหาเถรสมาคมครั้งที่ 11/2564 เมื่อวันที่ 30 เมษายน 2564 มีมติเห็นว่า การกระทำดังกล่าวของพระมหาสมปองเข้าข่ายการแสดงความคิดเห็นทางการเมือง และเป็นการแสดงความคิดเห็นที่ไม่เหมาะสม และมอบหมายให้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติประสานพระสังฆาธิการที่เกี่ยวข้องดำเนินการต่อไป

นายอนุชา กล่าวว่า ตนกำชับให้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) เร่งดำเนินการตามมติมหาเถรสมาคม (มส.) โดยด่วน โดยให้ประสานเจ้าอาวาสวัดต้นสังกัด รวมถึงเจ้าคณะปกครองสงฆ์ที่เกี่ยวข้อง พร้อมตรวจสอบพฤติกรรมของพระสงฆ์ที่มีการกระทำที่ไม่ใช่กิจของสงฆ์ เพื่อมิให้เกิดความเสื่อมเสียวงการสงฆ์และพระพุทธศาสนา

ก่อนหน้านี้ นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ก็ได้เรียกร้องให้ตรวจสอบพฤติกรรมของพระมหาสมปอง หลังมีการเผยแพร่ผ่านโชเชียลมีเดีย กรณีปรากฎภาพเหตุการณ์ที่พระมหาสมปอง ได้ช่วยรีวิวแนะนำสินค้าผลิตภัณฑ์อาหารเสริมให้กับบริษัทเอกชนรายหนึ่ง นอกจากนี้ยังได้รับเป็นที่ปรึกษาของสโมสรฟุตบอล ซึ่งมองว่าไม่ใช่กิจของสงฆ์

#พระมหาสมปอง #ดราม่า #ข่าว #โควิด #โควิด19