การแสดงชุด "มณฑาภฤษฏ์สักการ" (สงวนลิขสิทธิ์มหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์)

การแสดงชุด มณฑาภฤษฏ์สักการ

ผู้สร้างสรรค์ผลงาน
1. นายโกวิทย์ ดวงศรี
2. นายณัฐชนน ดวงเดือน
3. นายอนันตชัย วิจิตร
4. นายธิชานนท์ พรมสอน

อาจารย์ที่ปรึกษา
อาจารย์กฤติกา ธรรมวิเศษ

แรงบันดาลใจ
ดอกไม้ทิพธ์แห่งเมืองสวรรค์ที่ชื่อ มืองสวรรค์ที่ชื่อมณฑารพ นั้นจะปรากฏเฉพาะตอนที่มีสิ่ หนึ่งเกิดขึ้นกับองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า เช่น ประสูติ ตรัสรู้ ปรินิพาน เป็นต้น ซึ่งเทพยดา จะบันดาลให้ดอกมณฑารพตกลงมาจากเทวโลก ซึ่งผู้สร้างสรรค์ได้หยิบยกเอาตอนที่องค์ พระสัมมาพุทธเจ้าปรินิพาน เนื่องจากดอกมณฑารพปรากฏและร่วงหล่นลงมา

รูปแบบการแสดง
ช่วงการแสดงที่ 1 สรวงสวรรค์
เพื่อบูชาพระพุทธเจ้าครั้งสุดท้ายกล่าวถึงสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ มีความสงบสุข เทพยดาทั้งชายหญิงต่างออกมาร่ายรําอย่างสวยงามมี การประโคมบรรเลงเพลงไพเราะ
ช่วงการแสดงที่ 2 มณฑารพ
กล่าวถึงนันทวันอุทยานทิพย์ เป็นที่มาของดอกมณฑารพ ต้นกําเนิน เป็นดอกไม้ทิพย์ตามความเชื่อ ในพุทธศาสนาซึ่งมีความสําคัญและสัญลักษณ์ที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์สําคัญ และการบูชาพระพุทธเจ้า ดอก มณฑารพ ในการแสดงมีการร่ายรําตามลักษณะของดอกมณฑารพ (กลีบดอก 6 กลีบ กลีบดอกค่อนข้างหนา แข็ง ดอกมีกลิ่นหอมและส่งกลิ่นไปไกล โดยเฉพาะในตอนเช้าตรู่จะส่งกลิ่นหอมแรงมาก และออกดอกตลอดปี)
ช่วงการแสดงที่ 3 สักการะ
กล่าวถึงเทพยดาดลบันดาลให้ดอกมณฑารพร่วงหล่นโปรยปรายมายังสรีระของพระพุทธเจ้าก่อนที่
พระองค์ปรนิพานและเทพยดาลงมาประโลมดอกมณฑารพเพื่อบูชาพระพุทธเจ้าและ กอบโกยดอกมณฑามา บูชาพระพุทธเจ้าและน้อมนําคําคําสอนพระธรรมสุดท้ายว่า ดอกไม้ที่หล่นลงมาย่อมเหี่ยว แต่ที่ไม่เกี่ยวเลยคือ
พระธรรม