รีวิว Harley-Davidson Road Glide 2024 vs. 2022 รุ่นใหม่ดีกว่าเก่าตรงไหน

RG2024 & 2022

Harley-Davidson Road Glide หนึ่งในตระกูล Touring ที่ใช้แฟริ่งแบบยึดติดเข้ากับเฟรม เป็นโมเดลที่ผมอยากหามาใช้งานมากที่สุด แต่ก็เป็นรุ่นที่ไม่เคยเอามาครอบครองใช้งานจริงจังซักที ครั้งนี้เป็นโอกาสดีที่ได้ขี่ทดสอบ All New Road Glide 2024 เทียบกันกับ Road Glide 2022 แบบพร้อมกันในครั้งเดียว ได้เห็นความแตกต่างของรถรุ่นเก่าและรุ่นใหม่ พร้อมเปรียบเทียบรายละเอียดในหลายๆจุดได้แบบยังไม่ทันลืม

ครั้งแรกที่ได้ขึ้นขี่ Road Glide 2022 เรียกได้ว่าคุ้นมือแบบไม่ต้องปรับตัวอะไรมาก การบังคับรถ ระบบเบรค ตำแหน่งการขี่ การตอบสนองของคันเร่ง องค์ประกอบทุกอย่างจัดว่าดีที่สุดในรถของยุคนี้ เริ่มต้นขี่ออกจากโชว์รูม Richco Harley-Davidson of Chiangmai ย้อนกลับเข้ามาที่ประตูท่าแพ กับพื้นถนนที่ขรุขระตะปุ่มตะปั่มจากโครงการนำสายไฟฟ้าลงใต้ดิน ช่วงล่างของ RG2022 ยังคงตอบสนองแบบเดิม คือแข็งแบบไม่ค่อยรับแรงกระแทกซักเท่าไหร่ ความร้อนเริ่มส่งผ่านขึ้นมาจากตัวเครื่องในช่วงที่การจราจรชลอตัวในเขตคูเมือง แต่น้ำหนักคลัชท์ในรถรุ่นใหม่ช่วยให้ไม่เมื่อยมือได้พอสมควร ถ่ายรูปเสร็จ ออกจากเชียงใหม่ วิ่งเส้นซุปเปอร์ฯกลับบ้านสวน ด้วยความเร็วเดินทาง 100-140 กม./ชม. พื้นถนนคอนกรีตและเส้นแบ่งถนน พร้อมบางช่วงที่มีรอยปุปะบ้าง การตอบสนองของตัวรถก็ทำได้ตามมาตรฐานที่เคยขี่ มีดิ้นนิดๆเวลาขี่ข้ามเส้นแบ่งเลน อัตราเร่งจัดได้ว่าดีมากกับเครื่อง 117 cu.in. ระบบเบรคเชื่อใจได้เมื่อมีการปรับเปลี่ยนครั้งใหญ่จากในรุ่นก่อนหน้า แต่ทั้งหมดก็ยังมีความรู้สึกว่า HD น่าจะทำได้ดีกว่านี้

จนได้เวลาเอา RG2022 มาเปลี่ยนเป็น RG2024 สิ่งแรกที่รู้สึกเลยคือกระเป๋าข้างที่ใหญ่ขึ้น ยกเอาสัมภาระเดิมมาวางได้แบบเหลือที่อีกหน่อยจากที่ต้องจัดตำแหน่งให้พอดีในรุ่นเก่า พอขึ้นคล่อมแล้วยกรถตั้ง รู้สึกถึงน้ำหนักและศูนย์ถ่วงที่เปลี่ยนไป ตำแหน่งแฮนด์ที่สูงกว่าตัวเดิมอาจจะทำให้ไม่คุ้นชิน แต่พอลองขี่วนช้าๆทำความคุ้นเคยกับบาลานซ์ตัวรถ บอกได้เลยว่าควบคุมรถในความเร็วต่ำได้ง่ายขึ้นกว่าเดิมมาก อาการงึกงักของแผงคอหน้าหายไป แต่จะรู้สึกแปลกๆกับความกว้างของเบาะนั่งช่วงต้นขา และความสูงที่เพิ่มขึ้นนิดหน่อยเพราะมีการเพิ่มระยะยุบของโช๊ค.. ขี่ออกจากโชว์รูมด้วยความรู้สึกเบากว่าเดิม การตอบสนองของคันเร่งที่เปลี่ยนไป คมขึ้น ลื่นขึ้น แม่นยำขึ้น พร้อมกับความแรงของเครื่อง M8 117 cu.in. ที่ตอนแรกคิดว่าขนาดเท่ากันไม่น่าจะต่างกันเท่าไหร่ แต่ตัวใหม่มีการปรับแต่งระบบไอดีใหม่ ขยายขนาด Throttle Body (ลิ้นปีกผีเสื้อ) จาก 55 mm. เป็น 58 mm. พร้อมกับปรับแต่งชุดหัวเสื้อสูบ ฝาสูบห้องจุดระเบิด พอร์ตไอดี และตำแหน่งบ่าวาล์วใหม่ ทำให้ได้อัตราส่วนกำลังอัดที่มากขึ้นเป็น 10.3 : 1 สร้างความแตกต่างอย่างเห็นได้ชัดเวลาเปิดคันเร่งเมื่อเทียบกับตัวเก่า ขี่เข้าเมืองมาเจอการจราจรหนืดๆช่วงขุดถนน ความร้อนที่แผ่นขึ้นมาค่อนข้างน้อย ตำแหน่งพัดลมดูดความร้อนจากรังผึ้งหม้อน้ำที่วางเอาไว้หน้าเฟรมใต้สุด พัดเอาความร้อนลงใต้ท้องรถแตกต่างจากรถบางรุ่นที่พัดเอาอากาศร้อนเข้ามาโดนที่ขา ทำให้การขี่ในสภาพรถติดนิดๆหน่อยๆในเมืองเชียงใหม่ทำได้สบายมาก.. หน้าจอ TFT 12.3” ขนาดใหญ่สว่างชัดเจน ที่เอาข้อมูลทั้งหมดของตัวรถมาวางให้เห็นกันแบบสบายตา ไม่ต้องชำเลืองขึ้นๆลงๆแบบเดิม รวดเร็วด้วยระบบ Skyline OS แบบใหม่ไม่ต้องรอโหลดนานก็พร้อมออกรถได้ทันที แถมด้วยแผนที่นำทางบนหน้าจอที่ปรับขยายมาเป็นหน้าจอใหญ่ได้ด้วย ส่วนเรื่องเครื่องเสียง รอบนี้ไม่ได้ต่อโทรศัพท์เชื่อมเข้ากับตัวรถ เลยไม่ได้ทดสอบระบบเสียง Rockford Fostgate ที่เห็นบอกว่ากระหึ่มมาก

ออกจากตัวเมืองขี่เส้นถนนหลวงกลับบ้านสวน การตอบสนองกับรอยต่อของถนนปูน เส้นแบ่งเลน พื้นผิวปุปะบางช่วง RG2024 ทำได้ดีกว่าตัวเก่าเยอะ จากระยะยุบที่เพิ่มมากขึ้น ประกอบกับดีไซน์เบาะนั่งที่หนากระชับกับสรีระ ช่วยดันช่วงก้นให้ไม่ไหลไปด้านหลังเวลาเปิดคันเร่งแรงๆ ทำให้การขี่ในความเร็วเดินทางทำได้แบบไม่เครียด ยืนระยะได้ยาวขึ้น พอเข้าสู่เขตภูเขา การเข้าโค้งในความเร็วสูง สามารถโหนได้แบบไม่มีอาการดิ้นโผล่ขึ้นมาให้รู้สึก ยิ่งเข้าสู่ช่วงโค้งแคบคดเคี้ยวในเขตภูเขาสูง จุดศูนย์ถ่วงที่ต่ำลงทำให้การพลิกรถกดรถทำได้ง่ายขึ้นไวขึ้น สนุกกว่าเดิมเวลาเล่นกับโค้งแคบ ระบบเบรคในรถ Touring รุ่นล่าสุด ช่วยหยุดรถได้อย่างมั่นใจจนแทบไม่น่าเชื่อว่ากำลังขี่รถน้ำหนักเกือบ 400 กก. ด้วยการทำงานที่สัมพันธ์กันของ ABS, Traction Control, ช่วงล่างที่หนึบขึ้น ระยะยุบระบบกันสะเทือนที่มากขึ้น บอกได้เต็มปากว่าเบรค HD ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปแล้ว

ยังมีอีกหลายจุดที่แตกต่างของ Road Glide 2024 ซึ่งยิ่งขี่ก็ยิ่งเจอข้อดี เหมาะมากสำหรับคนที่ขี่ Touring ตัวเก่าแล้วอยากเปลี่ยนรุ่นใหม่เพื่อความปลอดภัยและสมรรถนะที่เพิ่มมากขึ้น

ต้องขอขอบคุณ Harley-Davidson Thailand และ Richco Harley-Davidson of Chiangmai ที่เอื้อเฟื้อรถทั้งสองรุ่นให้ได้ทดสอบพร้อมกันในครั้งนี้ครับ ใครที่อยู่ในเขตภาคเหนือสามารถติดต่อขอลองขี่ได้ที่

Richco Harley-Davidson of Chiangmai
โทร. 052-080-761
หรือแวะไปที่โชว์รูมได้ทุกวันครับ 😄