แพร่ต้องรอด!! วรวัจน์ สส แพร่ เปิดมาตรการบล็อกหนอนเจาะเมล็ดทุเรียนแก้ไขปัญหา ขายไม่ออกและราคาทุเรียน

นายวรวัจน์ สส.แพร่ เปิดมาตราการบล๊อคหนอนเจาะเมล็ดทุเรียน ไม่ให้เข้าจังหวัดแพร่ร่วมกับผู้นำท้องที่ท้องถิ่นและเกษตรกรที่อำเภอเด่นชัย เพื่อแก้ไขปัญหา การระบาดของหนอนเจาะเมล็ดทุเรียนที่ทำให้ทุเรียนขายไม่ออกและราคาทุเรียนตกต่ำมากในปีที่ผ่านมา และยกระดับการผลิตผลไม้แพร่ทั้งทุเรียนส้มโอลำไยพุทราและส้มเขียวหวานสู่ผลไม้คุณภาพสูง มาตรฐานส่งออก

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 20 ตุลาคม 2568 ณ ด่านเอกซ์เรย์ ต. ห้วยไร่ อ.เด่นชัย จ.แพร่ นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล สมาชิกสส.แพร่ พรรคเพื่อไทยได้ระดมผู้เชี่ยวชาญด้าน โรคและแมลงมุ่งเป้า“กำจัดหนอนเจาะเมล็ดทุเรียน” ที่มาจากผีเสื้อกลางคืน แมลงวันทอง ผีเสื้อมวนหวานและศัตรูผลไม้อีกหลายชนิดรวมถึงการใช้เอไอในการถ่ายทอดระบบบริหารและนวัตกรรมเกษตร 52 สัปดาห์ ผ่านระบบไลน์โอเอ พร้อมยกระดับทุเรียนภาคเหนือให้เป็นทุเรียนคุณภาพสูง เพิ่มราคาเพิ่มรายได้แก่เกษตรกรมากขึ้นกว่าเดิม

ซึ่งการจัดรณรงค์เกษตรกรนั้นได้รับความร่วมมือจากทั้งข้าราชการและองค์การปกครองส่วนท้องถิ่น กำนันผู้ใหญ่บ้าน และเกษตรกรที่ทำสวนทุเรียนที่ประสบปัญหาในจังหวัดแพร่ เพื่อรับฟังแนวทางการจัดการและแลกเปลี่ยนความรู้เกี่ยวกับแนวทางการป้องกันหนอนเจาะเมล็ดทุเรียน และการบริหารจัดการสวนผลไม้ตามหลัก “นวัตกรรมเกษตร 52 สัปดาห์ + AI + ระบบบริหารจัดการ + การตลาดพร้อมทำตลาดกลางที่มีแบรนด์ผลไม้คุณภาพสำหรับขายสรรพสินค้าขนาดใหญ่และการส่งออก ”

ในครั้งนี้ รศ.ดร.อำไพวรรณ ภราดร์นุวัฒน์ ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคพืช เป็นวิทยากรบรรยายแนวทางการควบคุมหนอนเจาะเมล็ดทุเรียนอย่างถูกวิธี เช่นการพ่นสารในช่วงระบาด เช่น อีมาเมกตินเบนโซเอต, พิริมิฟอส-เมทิล, เดลทาเมทริน หรือ ไซเพอร์เมทริน การห่อผลด้วยถุงตาข่ายไนลอนเมื่อผลมีอายุประมาณ 6 สัปดาห์ การใช้กับดักแสงไฟหลอด Black light สูงจากพื้น 1.5–2 เมตร เหนือถาดน้ำผสมน้ำยาล้างจาน เพื่อดักจับผีเสื้อกลางคืนตัวเต็มวัย และเน้นให้เก็บผลร่วงหรือเปลือกทุเรียนที่อาจมีหนอนอยู่ข้างในไปเผาทำลายทุกวัน เพื่อป้องกันไม่ให้หนอนลงดินและกลับมาเป็นผีเสื้ออีกในรุ่นต่อไป

นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล สส.จังหวัดแพร่ พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงความสำคัญของการยกระดับคุณภาพทุเรียนไทย ว่า“ทุเรียนเป็นราชาแห่งผลไม้และเป็นสินค้าส่งออกสำคัญของประเทศ โดยเฉพาะตลาดจีน แต่หลายปีที่ผ่านมาทุเรียนไทยจำนวนมากถูกลดการนำเข้าเพราะปัญหาคุณภาพจากหนอนเจาะเมล็ดทุเรียน ทำให้เกษตรกรแต่ละคนสูญรายได้ปีละหลายแสนบาท ดังนั้น ขอความกรุณาผู้นำทุกท่านได้วางมาตรการและขอความร่วมมือจากเกษตรกรทุกคนร่วมมือกัน กำจัดโรคและแมลงพร้อมๆกัน และเริ่มดำเนินการจัดการโรคและแมลงตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป เพื่อไม่ให้เกิดการระบาดอีกเหมือนในปีที่ผ่านมา พร้อมยกระดับมาตรฐานการผลิตให้ปลอดโรคและแมลงอย่างแท้จริง ตั้งแต่แปลงปลูกจนถึงมือผู้บริโภค”พร้อมเตรียมประกาศแบรนด์ผลไม้คุณภาพจังหวัดแพร่ในเร็วๆนี้ การผนึกกำลังในครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญของเกษตรกรทุเรียนและผลไม้ภาคเหนือ ที่จะช่วยยกระดับมาตรฐานผลไม้พรีเมียมไทยให้เข้าสู่ตลาดโลกได้อย่างมั่นคงและยั่งยืนต่อไป

สำหรับการสัมมนาในวันนี้ มี นายอำเภอเด่นชัย,พาณิชย์จังหวัดแพร่,เกษตรจังหวัดแพร่,เกษตรอำเภอเด่นชัย,นายบรรเจิด ดีตอ่ำ รองผู้อำนวยการฝ่ายวิศวกรรม แขวงทางหลวงแพร่,นายเสรี ทรงศักดิ์ เลขานุการ นายก อบจ.แพร่,นางภูวษา สินธุวงศ์ ที่ปรึกษานายก อบจ.แพร่,นายสน ลือวัฒนานนท์ รองนายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองแพร่,นายวังสาคร หมั่นขีด ประธานสภา อบจ.แพร่,นายอนันต์ กาศสมบูรณ์ ส.อบจ.แพร่,นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลเด่นชัย,นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลแม่จั๊วะ,นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลปงป่าหวาย,นายกองค์การบริหารส่วนตำบลเด่นชัย,นายกองค์การบริหารส่วนตำบลแม่จั๊วะ,นายกองค์การบริหารส่วนตำบลไทรย้อย,นายกองค์การบริหารส่วนตำบลห้วยไร่,กำนันตำบลปงป่าหวาย,กำนันตำบลแม่จั๊วะ,กำนันตำบลเด่นชัย,กำนันตำบลไทรย้อย,กำนันตำบลห้วยไร่,ผู้ช่วยผู้อำนวยการสำนักงานธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรจังหวัดแพร่,ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร สาขาเด่นชัย ซึ่งทุกฝ่ายทุกหน่วยงานจะได้ร่วมมือกันในการพัฒนาผลไม้ของ จ.แพร่ ให้เป็นผลไม่คุณภาพ สร้างรายได้ให้ชาวแพร่ ต่อไป.