คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5354/2562 คดีปริศนาคำรับสารภาพ
Автор: yut
Загружено: 2025-12-13
Просмотров: 2
วางบรรทัดฐานเกี่ยวกับการรับฟังคำรับสารภาพของจำเลยในคดีอาญา ศาลฎีกาได้พิพากษากลับคำพิพากษาศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ โดยให้ยกฟ้องจำเลยในความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด เนื่องจากเห็นว่าพยานหลักฐานของโจทก์มีเพียงคำรับสารภาพของจำเลยแต่เพียงลำพัง ซึ่งไม่มีน้ำหนักเพียงพอที่จะพิสูจน์ความผิดจนปราศจากข้อสงสัยอันสมควรได้
ประเด็นชี้ขาดของคดีนี้อยู่ที่การตีความประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 176 ซึ่งแม้จะบัญญัติให้ศาลสามารถพิพากษาโดยไม่สืบพยานต่อไปได้หากจำเลยรับสารภาพ แต่ศาลยังคงมีดุลยพินิจและหน้าที่ในการแสวงหาข้อเท็จจริงเพิ่มเติมเพื่อให้แน่ใจว่าจำเลยได้กระทำผิดจริง ศาลฎีกาชี้ให้เห็นว่า คำรับสารภาพของจำเลยในคดีนี้เป็นเพียงการยอมรับข้อเท็จจริงตามที่โจทก์ฟ้อง โดยไม่ได้มีรายละเอียดที่แสดงถึงเจตนาหรือการกระทำผิดอย่างแท้จริง เมื่อประกอบกับพฤติการณ์แวดล้อมที่น่าสงสัยเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างจำเลยและโจทก์ร่วม จึงต้องยกประโยชน์แห่งความสงสัยให้แก่จำเลย
1. ประเด็นหลักคือ ศาลจะลงโทษจำเลยตามคำรับสารภาพได้หรือไม่ ในเมื่อมีเหตุอันควรสงสัยว่าจำเลยไม่ได้กระทำความผิดจริงตามที่รับสารภาพ ศาลต้องวินิจฉัยว่าคำรับสารภาพนั้นเป็นข้อเท็จจริงที่น่าเชื่อถือพอที่จะใช้เป็นฐานในการพิพากษาลงโทษหรือไม่
2. เมื่อศาลเห็นว่าการรับสารภาพไม่ชอบด้วยกฎหมาย ศาลจะต้องไม่ถือว่าเป็นคำให้การที่ทำให้โจทก์ไม่ต้องนำสืบ แต่จะต้องดำเนินกระบวนพิจารณาต่อไปเสมือนว่าคดีนั้นไม่มีการรับสารภาพ กล่าวคือให้โจทก์นำพยานหลักฐานเข้าสืบเพื่อพิสูจน์ความผิดของจำเลย
3. ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามฟ้อง โดยอาศัยเหตุผลว่าจำเลยให้การรับสารภาพในชั้นพิจารณาซึ่งเป็นการยอมรับข้อเท็จจริงตามที่โจทก์ฟ้องทุกประการ จึงเชื่อว่าจำเลยได้กระทำความผิดจริง
4. มาตรา ๒๒๖/๑ วรรคหนึ่ง บัญญัติให้คำรับสารภาพของจำเลยในชั้นพิจารณาสามารถรับฟังเป็นพยานหลักฐานได้ แต่ศาลจะไม่เชื่อคำรับสารภาพนั้นก็ได้หากมีเหตุอันควรสงสัย หรือมีเหตุผลให้ต้องสืบพยานหลักฐานอื่นประกอบ
5. นายสมเกียรติเป็นน้องชายของโจทก์ร่วม และมีพฤติการณ์เกี่ยวข้องกับยาเสพติดซึ่งเป็นมูลเหตุแห่งคดีนี้ การกระทำของจำเลยจึงถูกตีความว่าอาจเป็นการช่วยเหลือปกป้องนายสมเกียรติซึ่งมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกัน
6. ข้อเท็จจริงที่สนับสนุนคือ จำเลยไม่ได้ร่วมลงทุนซื้อที่ดินและตึกแถวกับโจทก์ร่วม และไม่ได้เข้าไปใช้ประโยชน์ในตึกแถวดังกล่าวเลย การที่จำเลยไปดำเนินการจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์เป็นเพียงการกระทำแทนโจทก์ร่วมฝ่ายเดียว จึงฟังไม่ได้ว่าจำเลยได้รับประโยชน์จากตึกแถวของจำเลย
7. ศาลฎีกาเห็นว่าคำรับสารภาพของจำเลยไม่มีน้ำหนัก เพราะมีข้อเท็จจริงที่น่าสงสัยหลายประการ เช่น จำเลยไม่มีส่วนเกี่ยวข้องหรือได้รับประโยชน์จากยาเสพติด พฤติการณ์บ่งชี้ว่าจำเลยอาจรับสารภาพเพื่อช่วยเหลือน้องชายของโจทก์ร่วม ศาลจึงไม่อาจลงโทษจำเลยโดยอาศัยเพียงคำรับสารภาพที่น่าเคลือบแคลงสงสัยได้
8. ข้อความสำคัญคือ "บ้านนางอาภา ฯ ค้ายาเสพติดที่พัทยาและหลอกให้ไปซื้อตึกที่สนามแข่งรถ" ซึ่งแสดงให้เห็นว่าจำเลยทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการกระทำผิดของโจทก์ร่วม และคำพูดดังกล่าวถูกใช้เป็นหลักฐานในการพิจารณาคดี
9. ตามมาตรา ๑๗๖ หากศาลไม่เชื่อว่าจำเลยกระทำผิดจริง ศาลจะต้องพิพากษายกฟ้อง แต่หากมีเหตุควรสงสัย ศาลมีหน้าที่ต้องพิจารณาคดีต่อไปโดยให้โจทก์นำพยานหลักฐานมาสืบจนกว่าจะสิ้นสงสัย ไม่สามารถพิพากษาลงโทษจำเลยตามคำรับสารภาพได้ทันที
10. ศาลฎีกาพิพากษากลับ ให้ยกฟ้องโจทก์สำหรับจำเลย คำพิพากษานี้เป็นการกลับคำพิพากษาของศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ภาค ๗ ที่เคยพิพากษาว่าจำเลยมีความผิด
Доступные форматы для скачивания:
Скачать видео mp4
-
Информация по загрузке: