SOLO (ROAD TRIP บางกะม่า) จ.ราชบุรี

ขี่เดี่ยวสู่บางกะม่า—เส้นทางแห่งความท้าทาย มิตรภาพ และธรรมชาติ

จุดเริ่มต้น—จากโรงพยาบาลสู่แผนการเดินทางที่ไม่เปลี่ยนแปลง

เมื่อคืนนี้ ผมเพิ่งเข้าโรงพยาบาลแบบฉุกเฉินเพราะอาการปวดท้องจากการกินอาหารไม่เป็นเวลา แต่ถึงร่างกายจะเล่นงานผมแค่ไหน แผนการเดินทางไป "บางกะม่า" ก็ไม่เปลี่ยนแปลง ผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเส้นทางที่กำลังจะไปนั้นจะ โหด และ ท้าทาย ขนาดไหน จนกระทั่งถึงวันสุดท้ายก่อนออกเดินทาง แต่พอคิดว่าผมมัดจำที่พักไว้แล้วและหัวใจมันเรียกร้องอยากไปเต็มที่ ยังไงก็ต้องลุย!

มุ่งหน้าสู่บางกะม่า—การเดินทางเดี่ยว 300 กิโลฯ

เช้าวันต่อมา 9 โมงตรง ผมออกเดินทางจากบ้านที่ สระบุรี มุ่งหน้าสู่ ราชบุรี บน Royal Enfield Himalayan 452 คู่ใจ ทริปนี้ผมเดินทางลำพัง ตั้งใจจะไปพักที่ "บ้านไม้ไผ่บางกระม่า" สถานที่ที่ผมหาเจอจากโซเชียล แต่ไม่คิดเลยว่าการไปให้ถึงที่นั่นจะเป็นเรื่องท้าทายขนาดนี้
ระยะทางจากสระบุรีไปถึงบางกระม่า ประมาณ 300 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางราว 4 ชั่วโมง แต่ถ้ารวมการแวะพัก แวะถ่ายทำคลิปการเดินทาง ระหว่างทางก็คงนานกว่านั้น

ระหว่างทาง—จากฝูงลิงข้างถนนสู่ทางขึ้นบางกระม่า

การเดินทางคนเดียวทำให้ผมได้เห็นอะไรที่ไม่ทันสังเกตในเวลาไปกับเพื่อนๆ ผมเจอ ฝูงลิงอยู่ข้างถนน มองไปรอบๆ ถึงได้เข้าใจว่าพวกมันคงลงมาหาอาหาร เพราะป่าแห้งแล้งขึ้นทุกที ผมเลยหยิบน้ำออกจากกระเป๋าให้ลิงดื่ม ก่อนจะขี่ต่อไปพร้อมความคิดที่ว่า "ถ้าเราต้องใช้ชีวิตเหมือนพวกมัน เราจะเอาตัวรอดไหวมั้ย?"

เส้นทางสุดโหด—เข้าสู่บางกะะม่า

พอใกล้ถึงบางกะะม่า ถนนที่เคยราบเรียบก็กลายเป็น ถนนดินลูกรัง ขรุขระ มีร่องน้ำจากภูเขา ต้องใช้สมาธิและเทคนิคการขับขี่แบบเต็มร้อยพร้อมพุ่งไปกับ Himalayan452 เส้นทางด้านหน้ามีทั้ง โค้งหักศอกเยอะ มุมอับก็เพียบ ขี่มาถึงกลางทาง ผมได้เจอร้านเล็กๆ ที่ชื่อว่า "เซ็นท่าน" เจ้าของร้านคือ พี่ปุย หรือที่ทุกคนเรียกว่า ‘เจ้าสัว’

พักเหนื่อยที่ร้านเซ็นท่าน—จากนักเดินทางสู่พ่อค้าจำเป็น

พี่ปุยเป็นคนอารมณ์ดี เปิดร้านเล็กๆ กลางป่า ขายน้ำ ขนม และของใช้จำเป็น นักท่องเที่ยวที่มาถึงบางกะม่าส่วนใหญ่จะแวะถ่ายรูปคู่กับป้ายร้าน ผมเองก็ไม่พลาด!

จังหวะที่นั่งพักอยู่ พี่ปุยต้องออกไปข้างล่างพอดี ไม่มีใครเฝ้าร้าน ผมเลยได้ทำหน้าที่เป็น "พ่อค้าจำเป็น" ขายของให้คนที่แวะมา ที่แกยอมปล่อยให้ผมเฝ้าร้านเพียงลำพังเพราะว่าผม"ฟันขาว"ดูจริงใจ ห้ะ..ผมก็งงๆว่ามันใช้หรอพี่ฮ่าๆ แต่มันเป็นประสบการณ์ที่แปลกใหม่ แถมยังได้คุยกับคนในชุมชนอีกด้วย

ถึงที่พัก—บ้านไม้ไผ่บางกะม่า

จากร้านเซ็นท่าน ผมขี่ขึ้นไป บ้านไม้ไผ่บางกะม่า อีกแค่ 1 กิโลเมตร แต่เส้นทางยังคงเป็นทางชัน ต้องเร่งเครื่องไต่ขึ้นไปจนถึงจุดหมาย และเจ้า Himalayan452 ก็ไม่ทำให้ผิดหวัง พอไปถึง... วิวที่เห็นตรงหน้ามันคุ้มค่าทุกความเหนื่อย
บ้านไม้ไผ่หลังเล็กๆ ตั้งอยู่บนเนิน ไม่มีไฟฟ้า ไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวก แต่มีธรรมชาติอยู่รอบตัว ที่นี่เป็นของ พี่อี๊ด เจ้าของที่พักที่ใช้ชีวิตอยู่กับธรรมชาติแบบเรียบง่าย และทำอาหารพื้นบ้านให้ผมกินในมื้อเย็น (บอกเลยว่าอร่อยโคตร!)

ค่ำคืนกลางป่า—จากความเหงาสู่มิตรภาพใหม่

ตอนแรกผมคิดว่าคืนนี้คงเงียบเหงา เพราะไม่มีใครรู้จัก แต่พอได้ยินเสียงคนพูดคุยกันจากบ้านอีกหลัง ผมเลยเดินไปทักทาย และได้เจอกับ พี่กำพลและพี่อ๊อด สองเพื่อนซี้ที่ขี่รถขึ้นมาพักเหมือนกัน
เรานั่งล้อมวงคุยกัน แลกเปลี่ยนประสบการณ์ชีวิต พูดคุยเรื่องมอเตอร์ไซค์ และเรื่องราวการเดินทางของแต่ละคน มื้อนี้มีทั้ง อาหาร กับแกล้ม และเครื่องดื่มเบาๆ กับบรรยากาศแสงตะเกียงสลัวๆ จากค่ำคืนเงียบเหงากลายเป็นค่ำคืนที่เต็มไปด้วยเสียงหัวเราะและมิตรภาพ

เช้าวันใหม่—กาแฟร้อน ทิวเขา และอากาศเย็นสบาย

ตื่นเช้ามากับอากาศเย็นๆ ผมออกมาจิบกาแฟ นั่งมองวิวภูเขาตัดกับแสงแดดยามเช้า คิดย้อนกลับไปถึงเรื่องราวตลอดทริปนี้ มันเป็นการเดินทางลำพังที่ ไม่ได้รู้สึกเหงาเลย เพราะสุดท้ายก็ได้พบมิตรภาพดีๆ ระหว่างทาง

ก่อนกลับ ผมบอกลาพี่กำพล พี่อ๊อด และพี่ปุย พร้อมบันทึกภาพความทรงจำของบางกะม่าไว้ในหัวใจ แล้วออกเดินทางกลับบ้านที่สระบุรี

สรุปค่าใช้จ่าย

ค่าน้ำมัน : 1,000 บาท (สำหรับ Himalayan 452)

ค่าที่พัก : 1,200 บาท

ค่าอาหาร : 700 บาท (รวมอาหารเย็นและของกินระหว่างทาง)

รวมทั้งหมด : ไม่เกิน 3,000 บาท

บางกะม่า—ที่ที่ธรรมชาติและมิตรภาพมาบรรจบกัน
ทริปนี้สอนให้ผมรู้ว่า การเดินทางคนเดียวไม่ได้หมายความว่าจะเหงาเสมอไป เพราะระหว่างทางเราอาจเจอ เรื่องราวที่ไม่คาดคิด ได้พบ ผู้คนที่เป็นมิตร และได้สัมผัสธรรมชาติในแบบที่ชีวิตเมืองไม่มีวันให้ได้

ถ้าใครกำลังมองหาสถานที่ สงบ เงียบ และเต็มไปด้วยธรรมชาติ บางกระม่าคือ "คำตอบ"
ลองให้รางวัลตัวเองด้วยการ ออกเดินทาง แล้วเจอกันใหม่ทริปหน้า สวัสดีครับ

#FreestyleCustom
#บางกะม่า
#เที่ยวบางกะม่า
#Roadtrip
#Himalayan452
#RoyalEnfieldThailand
#PureMotorcycling