โหมโรงมงคลครุศาสตร์ ออกวิลาสสีเพลิง วงปี่พาทย์ดึกดำบรรพ์ ครุศาสตร์คอนเสิร์ต ครั้งที่ 42
Автор: Music Education, Chulalongkorn University
Загружено: 2025-02-24
Просмотров: 2503
การแสดงเบิกโรง ครุศาสตร์คอนเสิร์ต ครั้งที่ 42
โหมโรงมงคลครุศาสตร์ ออกวิลาสสีเพลิง บรรเลงโดยวงปี่พาทย์ดึกดำบรรพ์
เพลงมงคลครุศาสตร์
เป็นเพลงโหมโรงประเภทหน้าทับปรบไก่ อัตราจังหวะสามชั้น มีด้วยกัน 2 ท่อน ลักษณะของทำนองเพลงนี้มีลูกเท่าในท่อนแรก ส่วนท่อนสองซึ่งเป็นเที่ยวกลับครูจำเนียร ศรีไทยพันธุ์ (ศิลปินแห่งชาติ) และอดีตอาจารย์พิเศษสาขาวิชาดนตรีศึกษา คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ประพันธ์ขึ้นเมื่อวันที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2533 เพื่อมอบให้แก่สาขาวิชาดนตรีศึกษา ภาควิชาสารัตถศึกษา (ณ เวลานั้น) คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ครูจำเนียรเล่าที่มาของเพลงไว้ว่า “เกิดจินตนาการ จากการเห็นภาพนิสิตหญิง - ชาย คณะครุศาสตร์ ที่นั่งพักผ่อนช่วงเที่ยงใต้ร่มเงาลานไทร ด้วยบรรยากาศที่ร่มรื่นและเต็มไปด้วยความสุขสดชื่นของบรรดานิสิต ครูจึงได้คิดประดิษฐ์เพลงนี้ขึ้น เพื่อบรรยายถึงความอ่อนหวานและความเป็นธรรมชาติ ของคณะครุศาสตร์โดยมิได้ขยายมาจากทำนองเพลงใด” ได้ซ่อนเงื่อนเอาไว้โดยแต่งเป็นทำนองลูกล้อลูกขัดเหมาะสำหรับวงมโหรีและเครื่องสาย นัยว่าครูต้องการจะให้เป็นเพลงโหมโรงคู่กับเพลงโหมโรงพรหมประสิทธิ์ของครูที่บรรเลงด้วยวงปี่พาทย์ไม้แข็ง ทำนองท้ายเพลงวาที่นำมาบรรเลงตอนท้ายจบเพลงโหมโรงเพลงนี้ มีลักษณะพิเศษที่แตกต่างจากท้ายวาของ
เพลงโหมโรงเสภาทั่วไปตรงที่ ครูจำเนียรเปลี่ยนแปลงแก้ไขทำนองเล็กน้อย
ทั้งนี้เพื่อให้เหมาะสมกลมกลืนแล้วยังเป็นสัญลักษณ์ที่สังเกตให้ทราบว่า
เพลงโหมโรงนี้ ผู้แต่งคือครูจำเนียร ศรีไทยพันธุ์ (ศิลปินแห่งชาติ)
เพลงวิลาสสีเพลิง
ประพันธ์ขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2541 ในการแสดงครุศาสตร์คอนเสิร์ตครั้งที่ 18 ในโอกาสสถาปนาคณะครุศาสตร์ครบ 40 ปี เป็นผลงานการประพันธ์ของ รศ.ดร.ยุทธนา ฉัพพรรณรัตน์ ในลักษณะ การจินตนาการภาคที่สองต่อจากคุณครูจำเนียร ศรีไทยพันธุ์ (ศิลปินแห่งชาติ) โดยวัตถุประสงค์สำคัญนอกจากใช้บรรเลงต่อท้ายเพลงมงคลครุศาสตร์ ตามขนบโหมโรงแล้ว เพลงวิลาสสีเพลิงนี้ รศ.ดร.ยุทธนา ปรารถนาที่ใช้บทเพลงนี้ แทนมาลัยกราบบูชาพระคุณของอาจารย์จำเนียร ศรีไทยพันธุ์ (ศิลปินแห่งชาติ) ที่ท่านได้เสียสละ ทั้งแรงกายแรงใจตลอดเวลาที่มอบ ความรู้ ความรัก ความเมตตาแก่นิสิตสาขาวิชาดนตรีศึกษา คณะครุศาสตร์ จุฬาฯ ตลอดมา และให้เกิดเป็นอัตลักษณ์สำคัญในการบรรเลงอีกด้วย
ในตอนท้ายก่อนลงวา รศ.ดร.ยุทธนา ได้นำบทเพลงของคณะครุศาสตร์
ชื่อ “เพลิงพิมาน” มาบรรเลงต่อท้าย โดยในกลางท่อนจนถึงท่อนท้ายได้ประพันธ์บทร้องเพื่อสร้างทำนองประสานแนวใหม่ขึ้นสำหรับสรุปความและให้เกิดเป็นอัตลักษณ์สำคัญในการบรรเลงอีกด้วย
บทร้อง
เพลิงพิมานงามตระกาลน่าชม
อุทยานภิรมณ์ช่างสุขสมยิ่งพิมาน
พิมานเพลิงงามเถกิงดังสวรรค์
ชมดาวครุนั่นงามผ่องพรรณเพลินใจ
แดนไหนงามเท่า เทียมแดนเราได้
แดนไหนสุขใจ เทียบได้แดนเพลิง
ครุศาสตร์งาม สมนามเถกิง
พวกเรารื่นเริง พิมานเพลิงแดนใจ
งามยิ่งสมนามงามสะคราญจริงเจียว
ผูกพันแน่นเหนียวรักเดียวในสรรพางค์
งามยิ่งพระเพลิงรื่นสำเริงพิมาน
งามเเดนเปรียบปรานสมัครสมานพระเพลิง
จุฬาลงกรณ์ขอพระพรเถกิง
ครุศาสตร์บันเทิงงามพระเพลิงจุฬา
ควบคุมการบรรเลง
รศ.ดร.ยุทธนา ฉัพพรรณรัตน์
ฝึกซ้อมและปรับการบรรเลง
อาจารย์วีระกิจ สุวรรณพิทักษ์
อาจารย์เฉลิมพันธุ์ ฤาวิชา
วันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2568
ณ หอประชุมจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
สาขาวิชาดนตรีศึกษา ภาควิชาศิลปะ ดนตรี และนาฏศิลป์ศึกษา
คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
Доступные форматы для скачивания:
Скачать видео mp4
-
Информация по загрузке: