โผล่อีก ! ตู้ซ่อนคีย์การ์ดคอนโดฯ ย่านสาทร ปล่อยให้ นทท.เช่ารายวัน | สนามข่าว 7 สี

สนามข่าว 7 สี - โผล่อีก ! ตู้ซ่อนคีย์การ์ดย่านสาทร ปล่อยเช่าคอนโดฯ ให้นักท่องเที่ยวต่างชาติ สร้างความเดือดร้อนรำคาญให้ลูกบ้านชาวไทย และล่าสุดเมื่อคืนมีกลุ่มบุคคลมาขนย้ายตู้ออกไปแล้ว และมีการปะทะคารมกันนิดหน่อย

หลังมีการเปิดประเด็นขบวนการทุนจีนกว้านซื้อคอนโดฯ ย่านสุขุมวิท-สาทร เพื่อปล่อยเช่ารายวัน โดยนำคีย์การ์ด หรือกุญแจ ใส่ไว้ในกล่องเก็บแบบตั้งรหัสผ่าน

ทีมข่าวลงพื้นที่ไปอู่ซ่อมรถยนต์ย่านสาทร หลังได้เบาะแสจากเพจ Drama-addict ว่าเป็นจุดที่มีการซ่อนคีย์การ์ดกว่า 100 ใบ ภายในตู้ทึบ

ทีมข่าวพบชายชาวไทยก้มหน้าก้มตาใส่รหัสปลดล็อกเอาคีย์การ์ด จึงเข้าไปสอบถาม ทราบว่าชายคนนี้มาทำธุระย่านสาทร จองห้องพักผ่านแอปฯ ระยะเวลา 30 วัน ราคา 17,000 บาท โดยชื่อเจ้าของห้องเป็นชาวอาหรับ

ส่วนชาวต่างชาติคนนี้ เป็นนักท่องเที่ยวชาวอังกฤษ จองมาพัก 4 วัน โดยติดต่อนายหน้าคนไทยผ่านแอปฯ จองที่พัก ราคา 120 ปอนด์ หรือ ประมาณ 5,200 บาท ตกวันละ 1,300 บาท โดยหลังจองเสร็จจะมีอีเมลแจ้งให้ไปเอาคีย์การ์ดตามแผนที่ ซึ่งเป็นอู่ซ่อมรถ

จากนั้นให้ใส่รหัสตามที่ส่งมาเพื่อนำคีย์การ์ดใช้สแกนเข้าคอนโดฯ ซึ่งหนุ่มชาวอังกฤษบอกว่า ราคาที่ได้ค่อนข้างถูกในย่านสาทร

พบว่าภายในตู้มีกล่องคีย์การ์ด จำนวน 103 เครื่อง ซึ่งแต่ละเครื่องจะมีตัวเลขกำกับไว้ และต้องใช้รหัสเข้า

สอบถามเจ้าของอู่ บอกว่า เมื่อปีที่แล้ว มีชายคนหนึ่งติดต่อขอวางตู้ทึบ 2 ใบ บอกรายละเอียดแค่ว่าจะมีลูกค้าเข้ามาหยิบคีย์การ์ดในตู้ ให้ค่าตอบแทนเดือนละ 10,000 บาท ที่ผ่านมาเห็นนักท่องเที่ยวไทยและต่างชาติ มาเปิดตู้เพื่อเอาคีย์การ์ดแทบทุกวัน

เจ้าของอู่ ยืนยันไม่รู้มาก่อนว่าเป็นการทำผิดกฏหมาย หากมีเจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจสอบก็ยินดี

ทีมข่าวพูดคุยกับ 1 ในลูกบ้านคอนโดฯ ให้ข้อมูลว่า ปัญหาเกิดขึ้นตั้งแต่ช่วงหลังโควิด-19 ทำให้บรรยากาศจากที่เคยเงียบสงบเป็นส่วนตัว กลายเป็นเหมือนโรงแรม มีนักท่องเที่ยวเข้า-ออกไม่ซ้ำหน้า ส่งเสียงดังรบกวนตลอดคืน มีกลิ่นกัญชาลอยฟุ้งทั่วอาคาร สระว่ายน้ำ และฟิตเนส ถูกนักท่องเที่ยวใช้จนเต็ม

ด้านสำนักงานเขตสาทร ได้กำชับให้นิติบุคคลควบคุมไม่ให้มีการปล่อยเช่ารายวัน เพราะผิดกฎหมาย ขณะที่นิติฯ ปฏิเสธว่าไม่ทราบรายละเอียด อ้างว่าการปล่อยเช่าเป็นข้อตกลงระหว่างผู้เช่ากับผู้ให้เช่า

ผู้พักอาศัยให้ข้อมูลว่า หลังเป็นข่าว คอนโดฯ ได้ออกประกาศเตือนเรื่องบุหรี่กัญชา และเรื่องห้องเช่ารายวัน โดยนิติฯ เปลี่ยนมาใช้ระบบสแกนใบหน้า หากลูกบ้านพบเห็นการปล่อยเช่ารายวันให้แจ้งนิติฯ ทันที

ขณะที่ล่าสุดเมื่อประมาณ 22.00 น. ทีมข่าวได้รับคลิปจากลูกบ้านคอนโดฯ เป็นจังหวะที่มีกลุ่มบุคคลเข้าไปเคลื่อนย้ายตู้เก็บกล่องคีย์การ์ดออกจากอู่ โดยลูกบ้านพยายามสอบถามว่าได้รับว่าจ้างจากใคร ? แต่ก็ไม่ได้คำตอบ โดยสรุปก็ยังไม่ได้คำตอบว่ารถคันนี้รับว่าจ้างจากใครให้มาขนตู้ออกไป

ถามว่าปล่อยเช่าคอนโดฯ เป็นห้องพักรายวันแบบนี้ผิดไหม ? นักวิชาการด้านกฎหมาย บอกว่า ห้องเช่าชั่วคราวบนแอปฯ ยังผิดกฎหมายบ้านเรา ทั้ง พ.ร.บ.โรงแรมฯ, พ.ร.บ.ควบคุมอาคารฯ, พ.ร.บ.ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ผลที่ตามมาคือห้องเช่าไม่เป็นไปตามมาตรฐาน และบริการ ส่วนผู้ให้บริการไม่เสียภาษีเข้ารัฐ

ด้าน นายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง อธิบดีอัยการสำนักงานอัยการคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมาย พูดถึงปัญหาลูกบ้านได้รับความเดือดร้อนว่า แนะนำให้ผู้ถือครองกรรมสิทธิ์ หรือผู้เช่า ร้องเรียนที่สำนักงานเขต, อำเภอ หรือสำนักงานที่ดินให้เข้าไปดำเนินการตาม พ.ร.บ.อาคารชุดฯ ได้

ส่วนกรณีเดือดร้อนจากผู้ที่มาเช่า เช่น ส่งเสียงดังรำคาญ ก่อกวน หรือข่มเหงกันจะมีกฎหมายอาญาดูแล สามารถแจ้งความกับตำรวจท้องที่ได้

ทีมข่าวอาชญากรรม ได้ข้อมูลจากนายตำรวจสูง ในสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ให้มุมมองเกี่ยวกับเรื่องนายทุนจีนกว้านซื้อคอนโดฯ ปล่อยเช่าว่า ปัญหานี้เป็นเรื่องที่มีนอมินีคนไทยใช้ช่องกฎหมายคอยทำธุรกรรมให้กลุ่มธุรกิจสีเทา ยอมรับว่าเรื่องนี้มีช่องทางให้ดำเนินการได้ หากเป็นการทำอย่างถูกต้อง เช่น เสียภาษี, ไม่มีธุรกรรมอำพราง หรือฟอกเงิน ก็ยากที่จะเอาผิดได้

ด้าน รองนายกฯ อนุทิน ในฐานะ มท.1 บอกว่า การเปิดโรงแรมหรือห้องพักต้องมีใบอนุญาตของกระทรวงมหาดไทย กรณีคอนโดฯ ย่านสุขุมวิทที่เป็นประเด็นตอนนี้ กรมการปกครองต้องเข้าไปตรวจสอบ หากพบกระทำผิดก็ต้องโดนทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นคนไทย หรือคนจีน

กดติดตามช่อง CH7HD News ได้ที่ : https://cutt.ly/YTch7hdnews
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ https://news.ch7.com

#สนามข่าว7สี #ข่าวช่อง7 #CH7HDNEWS

ติดตาม CH7HD News และ TERO Digital ได้ที่ : https://linktr.ee/ch7hdnews_tero