อึ้งมาก! เขมรมัวแต่เคลมเพื่อนบ้าน เขมรมีขุมทรัพย์อยู่นับแสน ทำไมไม่พัฒนา และต่อยอด เหมือนประเทศอื่นๆ
Автор: ยำสาระ - Yum Sara
Загружено: 2024-11-28
Просмотров: 15066
อึ้งมาก เขมรมีขุมทรัพย์อยู่นับแสน แต่ทำไมไม่พัฒนา และต่อยอด เหมือนประเทศอื่นๆ เชื่อว่าหลายๆ คน คงเคยมีโอกาสได้ยิน เรื่องราวของหมู่เกาะเครื่องเทศ ที่มีค่ามากกว่าทองคำ ที่เหล่าบรรดานักสำรวจตัวยง ในช่วงศตวรรษที่ 16 อย่าง คริสโตเฟอร์ โคลัมบัส วัสโก ดา กามา เฟอร์ดินันด์ แมกเจลแลน ซามูเอล เดอ ชองแปลง และเฮนรี่ ฮัดสัน ที่พยายามดั้นด้นออกเดินเรือ เสาะหาเส้นทางไปหมู่เกาะเครื่องเทศ ซึ่งในช่วงศตวรรษที่ 16
การค้าเครื่องเทศ มีความสำคัญต่อเศรษฐกิจโลกพอ ๆ กับการค้าน้ำมันดิบในปัจจุบัน เครื่องเทศ เช่น ลูกจันทน์เทศ และกานพลู ที่มาจากหมู่เกาะเครื่องเทศอันลือชื่อ (ปัจจุบันคือจังหวัดโมลุกกะ และโมลุกกะเหนือ ของอินโดนีเซีย) เป็นเครื่องเทศที่ขายได้ราคาดีมากในยุโรป และการตามหาเครื่องเทศของอินโดนีเซีย ทำให้มนุษย์เข้าใจภูมิศาสตร์โลกจริง ๆ เป็นครั้งแรก และด้วยเครื่องเทศที่มีมูลค่ามากกว่าทองคำของที่นี่
ก่อให้เกิดโศกนาฏกรรมมากมาย บนหมู่เกาะเครื่องเทศแห่งนี้ การล่าอาณานิคมของชาวตะวันตก การรุกรานชนพื้นเมืองท้องถิ่น ที่เคยอยู่อาศัยโดยผาสุข หมู่เกาะโมลุกกะ กลายเป็นพื้นที่สู้รบหลายครั้ง นับตั้งแต่ชาวโปรตุเกส และชาวดัตช์เดินทางมาถึง เมื่อเป็นอาณานิคมของชาวตะวันตก เมล็ดพันธุ์ของความขัดแย้งทางเชื้อชาติ และศาสนา ก็ก่อตัวขึ้นในหมู่เกาะสวรรค์แห่งนี้ จนนำไปสู่สงครามกลางเมือง ซึ่งยืดเยื้อจนถึงช่วง คริสต์ศักราช 1990
ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต และมีผู้ลี้ภัยนับหมื่นคน ขณะที่บทบาทของหมู่เกาะโมลุกกะ ตำนานแห่งหมู่เกาะเครื่องเทศ ที่มีมูลค่ามหาศาล ก็ค่อย ๆ เลือนหายไปจากกระแสประวัติศาสตร์ แต่อย่างไรก็ตาม มีเครื่องเทศอีกชนิดหนึ่ง ที่มีการค้าขายกันอย่างกว้างขวาง และยาวนาน กว่าเครื่องเทศชนิดอื่น เครื่องเทศที่ว่านั้น ก็คือ พริกไทยนั่นเอง
ซึ่งถึงแม้จะเทียบปริมาณกันแบบปอนด์ต่อปอนด์แล้ว เครื่องเทศจากหมู่เกาะโมลุกกะ มีมูลค่าสูงกว่าแบบที่พริกไทยเทียบไม่ติด อาจจะแพงกว่าราว 3-6 เท่า เลยทีเดียว ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับช่วงเวลาและสถานที่ ซึ่งแทบไม่น่าเชื่อ ว่าพริกไทยที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลก พริกไทยที่ขึ้นชื่อเรื่องกลิ่มหอม และรสชาติที่จัดจ้านที่สุดในโลก นับตั้งแต่ยุคสมัยเจ้าอาณานิคมฝรั่งเศส จนถึงปัจจุบัน คือพริกไทย ที่มาจากเมืองกัมปอต ประเทศกัมพูชานี่เอง ย้อนกลับไปเมื่อสมัยยุคจักรวรรดิอาณานิคมฝรั่งเศส ในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 ซึ่งประเทศกัมพูชา ก็เป็นประเทศหนึ่ง ที่ตกไปอยู่ภายใต้การปกครองของฝรั่งเศส นอกจากภาษา และศาสนาคริสต์ ที่ฝรั่งเศสนำเข้ามาในกัมพูชา ก็ยังมี เครื่องเทศอย่าง พริกไทยสายพันธุ์ต่างถิ่น ได้ถูกนำเข้ามาปลูกในกัมพูชาอีกด้วย โดยพื้นที่ที่นิยมปลูกที่สุด
คือ “จังหวัดกัมปอต”ซึ่งเป็นจังหวัดที่อยู่ทางตอนใต้ของประเทศกัมพูชา บริเวณ เทือกเขาดมเร็ย ที่รายล้อมไปด้วยเทือกเขาใหญ่น้อยสลับซับซ้อนกัน ซึ่งอุดมไปด้วยแร่ควอตซ์ และอยู่ติดทะเลอ่าวไทย ด้วยสภาพแวดล้อม และแร่ธาตุที่อุดมสมบูรณ์ ทำให้พริกไทยที่ปลูกในกัมปอต มีคุณภาพที่ดีเยี่ยม จนเป็นเครื่องเทศที่มีชื่อเสียง
สำหรับร้านอาหารฝรั่งเศสในสมัยนั้น ในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 ถือได้ว่าเป็นยุคทอง ของพริกไทยกัมปอต เพราะร้านอาหารฝรั่งเศส ต่างนิยมใช้พริกไทยของกัมปอต จนทำให้กลายเป็นเครื่องเทศที่มีความต้องการสูง และเกษตรกรก็นิยมปลูก จนมีผลผลิตราว 8,000 ตันต่อปี จนกระทั่งมาในยุคการปกครองของเขมรแดง ในปลายศตวรรษที่ 20 ได้ให้เกษตรกรหันมาเน้นปลูกข้าวแทน ซึ่งทำให้การเพาะปลูกพริกไทยกัมปอตลดน้อยลง จนเกือบจะหมดไป กลายเป็นยุคที่ตกต่ำที่สุดของพริกไทยกัมปอต แต่หลังจากผ่านพ้นช่วงเวลายุครุ่งเรืองของเขมรแดง และสงครามกลางเมืองกัมพูชามาแล้ว พริกไทยกัมปอต ก็ได้รับการฟื้นฟูขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง ในช่วงทศวรรษ2000 แต่อย่างไรก็ตาม พริกไทยกัมปอต ที่น่าจะเป็นเหมือนขุมทรัพย์ ที่สามารถนำรายได้มหาศาลเข้าสู่ประเทศเขมร เพราะปัจจุบันผลผลิตก็ยังไม่เพียงพอต่อความต้องการของตลาดโลก แต่ทำไมเราได้ยินการพูดถึงเรื่องนี้น้อยมาก โดยเฉพาะจังหวัดกัมปอต แหล่งปลูกพริกไทยที่มีคุณภาพดีที่สุดในโลก แต่เรากลับได้ยินแต่เรื่อง การส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดนี้ โดยเฉพาะที่เป็นประเด็นดราม่า ที่โด่งดังอยู่ในโลกโซเชี่ยวช่วงหนึ่ง
กรณีสร้างม้าน้ำพ่นน้ำ ที่มันไปคล้ายๆ กับสิงโตทะเลพ่นน้ำของทางสิงคโปร์ มีการสร้างอนุสาวรีย์ผลไม้ ซึ่งเกือบจะดีอยู่แล้วเชียว ถ้ามีพริกไทยอยู่ในนั้นด้วย แต่ก็ไม่มีอีกเช่นเคย เวบไซต์สำหรับโปรโมทการท่องเที่ยวของเมืองนี้ ได้ลงภาพมุมสวยๆ ตลอดจนสิ่งที่น่าสนใจ ของเมืองนี้เอาไว้มากมาย แต่พอลงภาพพริกไทย พวกเค้าหามาได้ แค่นี้เอง สงสารน้องพริกไทยมาก ทำไมไม่มาเกิดที่ประเทศไทยให้รู้แล้วรู้รอด อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ชาวเมืองนี้เป็นกังวลก็คือ เมืองเล็กๆ อันเงียบสงบแห่งนี้ ไม่อาจต้านทานกระแสการลงทุน จากนักลงทุนจีนเอาไว้ได้ อีกต่อไป
เพราะมันกำลังหลัั่งไหลเข้ามาเรื่อยๆ ซึ่งพวกเค้ากังวลว่า สักวันหนึ่งเมืองที่เคยเงียบสงบของพวกเค้า จะเป็นเหมือนเมืองสีหนุวิลล์ ซึ่งอันที่จริง มันก็เป็นเรื่องแปลก ที่เราพบเห็นเป็นเรื่องปกติตลอดมา สำหรับเขมร
เหมือนพวกเค้า มักมองข้ามสิ่งที่เป็นขุมทรัพย์ ของประเทศของพวกเค้าตลอดเวลา อย่างกรณีเรื่องขอ วัฒนธรรม
พวกเค้าสามารถสร้างภาพจำ เทศกาลน้ำโจลชนัมทเมยของพวกเค้า ให้โลกจดจำในชื่อนี้ของพวกเค้าได้ ด้วยวิธีส่งเสริมแบบใดๆ ก็แล้วแต่ อาจจะศึกษาจากประเทศไทยก็ได้ แต่ไม่ใช่เปลี่ยนชื่อมาเป็นสงกรานต์ โดยอ้างมันมีบันทึกบนกำแพง ซึ่งวิธีนี้ใช้ไม่ได้ผล เพราะคนทั่วโลกเค้าจดจำไปแล้วว่า มันเป็นแบรนด์ระดับไฮเอน ของประเทศไทยไปนานแล้ว ซึ่งพวกเค้าจะกลับตัวก็ไม่ได้ ให้เดินต่อไป ก็ไปไม่ถึง เท่ากับเสียโอกาส ในการส่งเสริเทศกาลนี้ไปโดยสิ้นเชิง ซึ่งถ้าหากจะอ้างว่า มันมีบันทึกอยู่บนกำแพง แล้วทำไม ไม่ใช้ชื่อนี้ตั้งแต่แรก ซึ่งสำเนียงภาษาของพวกเค้า ก็ไม่ได้ออกเสียงว่าสงกรานต์แบบไทยด้วย แต่ออกเสียงว่า สันกรานติ แต่มาใช้คำว่าสงกรานต์แบบสำเนียงไทย เพราะมันเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก เอากับพวกเค้าสิ

Доступные форматы для скачивания:
Скачать видео mp4
-
Информация по загрузке: