สรุปหนังสือ The Isaiah Effect (Gregg Braden) - Podcast EP15

📜 1. คำทำนายโบราณไม่ได้ฟันธงอนาคต แต่มันเปลี่ยนได้
Gregg Braden อธิบายว่า “คำทำนาย” ของชาวอิสราเอลโบราณ (จากหนังสืออิสยาห์)
ไม่ใช่สิ่งที่ต้องเกิดขึ้นแน่นอน
แต่เป็น “เส้นทางความเป็นไปได้” หลายแบบ ที่รอให้เราเลือก
คำทำนายจึงไม่ใช่คำพิพากษา… แต่มันคือแผนที่ทางจิตวิญญาณ
ที่บอกเราว่า ถ้าเราเปลี่ยนคลื่นพลังงานในใจ เราจะเปลี่ยนเส้นทางของโลกได้

🌊 2. ภาวะสงครามหรือภัยพิบัติ ไม่ใช่บทลงโทษ แต่เป็นจุดเปลี่ยนของคลื่นมวลรวม
สิ่งที่เกิดขึ้นในโลก ไม่ได้มาจากพระเจ้าลงโทษ
แต่มาจาก "คลื่นพลังงานรวมของมนุษย์" ในช่วงเวลานั้น
ถ้าเรากลัว เกลียด แตกแยกออกจากกัน สนามพลังงานโดยรวมก็จะดึงดูดสถานการณ์แบบนั้น
แต่ถ้าเราร่วมกันสร้างพลังงานของการให้อภัย สันติ และความรัก
เราจะเปลี่ยนคลื่นพลังงานมวลรวม และเปลี่ยนผลลัพธ์ของโลกได้

🧬 3. คำภาวนา = คลื่นพลังงานที่มีผลต่อโลกจริงๆ
Gregg บอกว่า คำภาวนาแบบเดิมๆ ที่ “ขอ” หรือ “อ้อนวอนกับฟ้า”
ไม่มีผลเท่ากับ “คำภาวนาที่ส่งคลื่นความรัก ความสุข”
เช่น การรู้สึกเหมือนได้รับแล้ว การเห็นภาพผลลัพธ์อย่างชัดเจน
หรือการใส่อารมณ์แห่งความรัก ความสงบเข้าไปในการภาวนา
เพราะจักรวาลไม่ตอบสนองต่อคำพูด แต่ตอบสนองต่อ “คลื่นความรู้สึกจริงๆ” ที่เราส่งออกไป

🌌 4. จิตของเราส่งผลต่อสนามพลังงานของโลก
จากการทดลองหลายอย่างที่ Gregg อ้างถึง เช่น
👉งานวิจัยเกี่ยวกับ meditation collective
👉คลื่นหัวใจที่ส่งผลต่อสนามแม่เหล็กของโลก
เขาพบว่า จิตของมนุษย์สามารถมีผลต่อสนามพลังงานของโลกได้จริง
ยิ่งถ้าคนหลายคนตั้งใจส่งคลื่นแห่งความรักและสันติพร้อมกัน โลกจะเปลี่ยนคลื่นความถี่แบบทันตาเห็น

💓 5. คำภาวนาที่เปลี่ยนโลกได้ = ต้อง "รู้สึกว่ามันเกิดขึ้นแล้ว"
ในวิธีของชาวอินเดียนแดงโบราณ
พวกเขาจะไม่ “ขอให้ฝนตก” แต่พวกเขาจะ “รู้สึกเหมือนว่าฝนตกแล้ว”
เช่น ยืนหลับตาและรู้สึกถึงโคลนใต้เท้า
หรือได้กลิ่นฝนในอากาศ
เพราะเมื่อคลื่นในใจเปลี่ยนเป็น “คลื่นที่ได้รับแล้ว”
สนามพลังงานของโลกจะตอบสนองให้เกิด “ฝนตกจริงๆ”

🔁 6. อนาคตเปลี่ยนได้เสมอ ขึ้นอยู่กับคลื่นพลังงานที่เราส่งออกไป
แม้คำทำนายจะมีบอกถึงภัยพิบัติหรือสงคราม
แต่มันมีเส้นเวลาอื่นๆ ที่เบา สวยงาม และเต็มไปด้วยสันติ
Gregg เน้นว่า ทุกครั้งที่เรากลับมารู้สึกที่หัวใจ
เลือกการให้อภัยแทนการแก้แค้น
เลือกความหวังแทนความกลัว
เราได้ “เลือกอนาคตใหม่” ให้โลกทั้งใบแล้ว

🕊️ 7. เราแต่ละคนมีพลังในการ “เปลี่ยนเส้นเวลารวมของโลก”
อย่าคิดว่าเราตัวเล็กเกินไป
Gregg ชี้ให้เห็นว่า แม้เพียงแค่คน 1 คนที่ส่งคลื่นแห่งความรักอย่างเข้มข้น
ก็สามารถส่งแรงกระเพื่อมไปถึงทั้งเมือง ทั้งประเทศ
และถ้ามีคนจำนวนมากที่ “จูนคลื่นพร้อมกัน”
สนามพลังงานของโลกจะ "ยกระดับ" แบบทันที (Spontaneous shift)

🌱 8. อย่ารอให้โลกเปลี่ยนก่อน จงเป็นคลื่นใหม่ตั้งแต่วันนี้เลย
Gregg ทิ้งท้ายว่า
ไม่ต้องรอให้สงครามสงบก่อน ไม่ต้องรอให้คนเข้าใจ
แต่เราสามารถเริ่มใช้ชีวิตแบบใหม่ ตั้งแต่ในใจเราวันนี้ได้เลย
👉ใช้ถ้อยคำที่มีพลังสร้างสรรค์
👉ฝึกจินตนาการที่ทำให้ใจเรายิ้ม
👉ใส่คลื่นของความรักในทุกอย่างที่ทำ
เพราะทุกพลังงานที่เราส่งออกไป = คือการโหวตว่าโลกควรไปทางไหน

ด้วยรัก
จินนี่ – Ginny Loves Wisdom 🦉✨