ทุเรียนระยะหางแย้ควรดูแลอย่างไร?? ดอกหางแย้ เพลี้ยไฟ กำจัดเพลี้ยไฟ การให้น้ำระยะดอก

การดูแลทุเรียนในระยะดอกหางแย้
หลังจากดอกบาน และมีกระบวนการผสมเกสรแล้ว..เกสรตัวผู้จะเหี่ยวแห้งและหลุดร่วงไป เหลือแต่เกสรตัวเมีย เราจะเรียกระยะนี้ว่า....หางแย้ ซึ่งปลายของเกสรจะเริ่มแห้งไหม้...ผลอ่อนที่เกิดจากผสมเกสรสมบูรณ์ก็จะเริ่มป่องออกมา..และดอกไหนไม่สมบูรณ์ก็จะหลุดร่วงไป
ดอกระยะนี้ สิ่งที่ต้องระวังคือการให้น้ำ โดยให้น้ำอยู่ที่ 40-50% หรือประมาณ 20-30 นาที ให้ 2-3 วัน/ครั้ง เพราะช่วงนี้ยังไม่ต้องการน้ำเยอะ ซึ่งจะส่งผลให้ดอกติดไม่ค่อยดี และจะมีผลต่อการแตกใบอ่อน ซึ่งจะมีอัตราเสี่ยงต่อระยะติดผลซึ่งจะทำให้ผลหลุดร่วงได้ครับ ...และประคองการให้น้ำจนกว่าจะถึงช่วงติดผลช่วงผลเท่าไข่ไก่... โดยสังเกตที่ขั้วดอกครับ..ถ้าขั้วดอกเหี่ยวก็น้ำน้อยไป แต่ถ้าขั้วดอกบวมจะปริ...แสดงว่าน้ำมากไปครับ
ในเรื่องของการตัดแต่งดอก...ก็ควรตัดแต่งดอกที่อยู่ปลายกิ่งทิ้งเพื่อป้องกันการรับน้ำหนักของผล...ส่วนตำแหน่งดอกจะตรงกลางกิ่ง...ในบางสวนก็มีการตัดแต่งดอกไปด้วย... แต่บางส่วนก็จะใช้วิธีการเหลือไว้เพราะว่าสภาพอากาศแปรปรวน อย่างเช่นซึ่งปีนี้มีอากาศหนาวยาวนาน...อาจมีฝนเข้ามาร่วมด้วย...ซึ่งจะส่งผลต่อการหลุดร่วงของดอก....ดังนั้นอาจจะเหลือไว้เพื่อไปแต่งในช่วงติดผลอีกที

ในเรื่องของธาตุอาหารเสริม...แคลเซียม-โบรอนก็ยังจำเป็นในช่วงนี้นะครับ... ใช้ร่วมกับแมกนีเซียม ผสมปุ๋ยน้ำ สูตร 14-14-14 อัตรา 300 มิลลิลิตร ผสม/น้ำ 200 ลิตร ฉีดพ่นทางใบ..โดยฉีดพ่นให้ทั่วทรงพุ่ม...

สำหรับการให้ปุ๋ยในช่วงไข่ไก่ถึงกระป๋องนมจะเป็นระยะที่มีการสร้างเปลือก..ดังนั้นการให้ปุ๋ยก็จะค่อยให้ในปริมานที่น้อยก่อนแล้วค่อยเพิ่มขึ้นในช่วงระยะขยายพู (หรือระยะ 8-10 สัปดาห์หลังดอกบานไปแล้ว)..เพราะถ้าให้ปุ๋ยเยอะในช่วงนี้จะเป็นการสร้างเปลือกจะทำให้เปลือกหนานั้นเอง

ในส่วนยาหนอน...ยาเพลี้ยนะครับจำเป็นต้องฉีดในช่วงนี้ โดยเฉพาะเพลี้ยไฟ จะพบตามซอกของหมวกดอก...จะทำให้หนามทุเรียนติดกัน....เมื่อลูกโตจะเป็นทุเรียนหนามจีบ ส่งผลให้ ราคาตก
ในการจัดการเพลี้ยไฟอาจจะใช้ระบบน้ำเหวี่ยง โดยให้น้ำ 1-2 ชั่วโมง/วัน หรือใช้เครื่องฉีดพ่น..ให้ใบเปียกโชกทั่วทรงพุ่ม...หรืออาจจะต้องเขย่ากิ่งหรือช่วยแกะหัวหมวกดอกออก
*สำหรับสารชีวภัณฑ์นั้นนะครับก็ให้ใช้เชื้อราบิวเวอเรีย ฉีดพ่นทุก 7 วัน
*และสำหรับสารเคมีในช่วงดอก...เพื่อป้องกันหนามจีบจากการทำลายของเพลี้ยไฟนั้น...ก็จะเป็นยาเย็น...โดยให้ใช้ยาสูตรอื่น..ที่ไม่ใช่ EC เช่น WG, SC, SL, SP, SG, ZC จะมีสารที่มีประสิทธิภาพเรียงตามลำดับดังนี้นะครับ
*กลุ่ม5 สไปนีโทแร่ม 12% SC และสไปนีโทแรม 25% WG
*กลุ่ม2 ฟิโพรนิล 5% SC และ ฟิโพรนิล80%WG
*กลุ่ม6 อีมาเมกตินเบนโซเอต 5%WG หรือ5%SG ก็ได้นะครับ
*และก็..กลุ่มสารผสมสำเร็จรูป..กลุ่ม4+กลุ่ม3 ไม่ว่าจะเป็น ไทอะมีทอกแซม+แลมบ์ดาไซฮาโลทริน 14.1+10.6%ZC
ซึ่งสารดังกล่าวข้างต้นใช้กำจัดหนอนผีเสื้อได้ด้วย..นะครับ
เวลาฉีดพ่นควรฉีดหมวกดอกให้หลุดให้เยอะที่สุด...และหัวฉีด..ควรจะเป็นแบบละอองฝอย เพราะช่วงนี้...ยังอยู่ในช่วงเป็นผลอ่อน ถ้าฉีดยาร้อน...หรือว่า...ฉีดพ่นด้วยหัวฉีดแรงๆ...ก็อาจจะทำให้ดอกหลุดร่วงได้ .... ซึ่งก็ย้ำนะครับต้องเป็นยาเย็นเท่านั้น
+++++++++++++

ติดต่อฅนเกษตร :   / konkaset89  
ติดต่อทีมงาน Production :   / korkai.studio9